รองนายกฯ ประเสริฐเปิดอบรม Youth Worker ตามแนวทาง“โคราชโมเดล” ดันเป้าหมาย Zero Dropout เด็กนอกระบบการศึกษา

เผยแพร่เมื่อ ๑๘ ส.ค. ๒๕๖๘

ภาพประกอบข่าว

วันนี้(๑๘ ส.ค.๒๕๖๘) เวลา ๐๙.๐๐ น. ที่ โรงแรมดิ อิมพีเรียล โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ โคราช จังหวัดนครราชสีมา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานเปิดการอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตรการฝึกอบรมสมรรถนะบุคคลตามมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ อาชีพผู้ทำงานกับเยาวชน (Youth Worker) ภายใต้แนวทาง “โคราชโมเดล” โดยมี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวต้อนรับ ผู้เข้ารับการอบรมประกอบด้วย ปลัดอำเภอ ผู้นำชุมชน ครูศูนย์การเรียน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนการทำงานกับเด็กและเยาวชนในระดับพื้นที่

นายประเสริฐ กล่าวในพิธีเปิดว่า รัฐบาลให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาเด็กและเยาวชนนอกระบบการศึกษา โดยใช้แนวทางแบบบูรณาการจากหลากหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และองค์กรระหว่างประเทศ เริ่มต้นที่จังหวัดนครราชสีมา ก่อนขยายผลไปยังทั้ง ๗๗ จังหวัดทั่วประเทศ 

Youth Worker หรือผู้ทำงานกับเยาวชน จะทำหน้าที่สนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาเยาวชนอายุระหว่าง ๑๑–๑๙ ปี ให้สามารถกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา การฝึกอาชีพ หรือการเรียนรู้ในรูปแบบอื่นที่ยืดหยุ่น เหมาะสม และนำไปสู่การมีอาชีพ มีรายได้ และสามารถพัฒนาตนเองต่อไปได้อย่างยั่งยืน 

ภายใต้โครงการนี้ ผู้เข้ารับการอบรมจะได้รับการพัฒนาทักษะตามมาตรฐานอาชีพ โดยสามารถนำความรู้และประสบการณ์ไปใช้ในชุมชนของตน พร้อมทั้งสามารถสะสมหน่วยความสามารถ (Competency Credit Bank) เพื่อใช้เทียบโอนหรือพัฒนาต่อยอดสู่คุณวุฒิทางวิชาชีพหรือการศึกษาได้ในอนาคต

ทั้งนี้ กระทรวงดิจิทัลฯ ยังได้มอบหมายให้ศูนย์ดิจิทัลชุมชน จำนวน ๕๑ แห่งในจังหวัดนครราชสีมา เป็นพื้นที่สนับสนุนการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชน รวมถึงการเตรียมความพร้อมในการเข้าสู่ตลาดแรงงาน โดยเฉพาะการเตรียมงาน Korat Expo ๒๐๒๙ หรือมหกรรมพืชสวนโลก ที่จังหวัดนครราชสีมาจะเป็นเจ้าภาพในปี พ.ศ. ๒๕๗๒

นายประเสริฐ ยังได้ขอบคุณความร่วมมือจากองค์การยูนิเซฟ ประเทศไทย สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) และคณะกรรมการระดับจังหวัดที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอาชีพ Youth Worker ให้มีคุณภาพทัดเทียมระดับสากล ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการพาเด็กและเยาวชนทุกคนเข้าถึงโอกาสและไม่หลุดออกจากระบบการศึกษาอีกต่อไป


 #ZeroDropout #การศึกษาไทย