นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ ๑๔–๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๘ ได้ลงพื้นที่จังหวัดระนอง เพื่อติดตามสถานการณ์การค้าชายแดน การนำเข้า และการขนย้ายสินค้าเกษตร โดยเฉพาะ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ตามนโยบายของนายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เพื่อป้องกันการเอารัดเอาเปรียบเกษตรกร และกำกับดูแลราคาสินค้าเกษตรให้มีเสถียรภาพ
การลงพื้นที่ครั้งนี้มีการตรวจสอบการนำเข้าและการขนย้ายข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
ร่วมกับเจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจกองตรวจสอบและปฏิบัติการ นายตรวจชั่งตวงวัด
และเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดระนอง โดยลงพื้นที่ด่านศุลกากรจังหวัดระนอง
และตรวจเยี่ยมผู้ประกอบการท่าเรือทั้งภาครัฐและเอกชน
การปฏิบัติการเป็นความร่วมมือบูรณาการจากหลายหน่วยงาน
ได้แก่ กรมศุลกากร กรมวิชาการเกษตร กรมปศุสัตว์ การท่าเรือและกระทรวงพาณิชย์
เพื่อควบคุมการนำเข้าและการขนย้ายให้เป็นระบบ ป้องกันการลักลอบนำเข้า
และให้การขนย้ายดำเนินไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
รองอธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวเพิ่มเติมว่า
ช่วงนี้ผลิตข้าวโพดของไทยเริ่มออกสู่ตลาด กรมฯ
ได้ติดตามสถานการณ์โดยเฝ้าระวังสถานการณ์ด้านปริมาณ ราคา การรับซื้อ และการขนย้ายสินค้าเกษตรตามแนวชายแดนอย่างใกล้ชิด
โดยจัดส่งสายตรวจพิเศษลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง
เพื่อป้องปรามการขนย้ายที่ไม่ได้รับอนุญาต
หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและตรวจสอบการรับซื้อขายตามที่กฎหมายกำหนด
เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับเกษตรกรในฤดูกาลผลิตนี้
พร้อมกันนี้ ได้เตือนผู้ประกอบการให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
โดยผู้ฝ่าฝืนจะมีโทษตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. ๒๕๔๒ และ
พระราชบัญญัติชั่งตวงวัด พ.ศ. ๒๕๔๒ ดังนี้
กรณีไม่แสดงราคารับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปรับไม่เกิน ๑๐,๐๐๐ บาท แสดงราคารับซื้อไม่ถูกต้อง หรือขนย้ายไม่ตรงตามใบอนุญาต
จำคุกไม่เกิน ๕ ปี หรือปรับไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท
หรือทั้งจำทั้งปรับ กดราคารับซื้อ จำคุกไม่เกิน ๗ ปี หรือปรับไม่เกิน ๑๔๐,๐๐๐ บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ไม่แจ้งปริมาณหรือสถานที่เก็บ จำคุกไม่เกิน ๑
ปี หรือปรับไม่เกิน ๒๐,๐๐๐ บาท และปรับรายวันไม่เกิน ๒,๐๐๐ บาท จนกว่าจะปฏิบัติถูกต้อง
ดัดแปลงเครื่องชั่งตวงวัดหรือโปรแกรมที่ใช้กับเครื่องชั่ง จำคุกไม่เกิน ๗ ปี
หรือปรับไม่เกิน ๒๘๐,๐๐๐ บาท ทั้งนี้
ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสหรือร้องเรียนได้ที่ สายด่วน ๑๕๖๙
หรือที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ