เลขาฯ ศอ.บต เยี่ยมผู้ต้องขังเรือนจำยะลา "หนุน หลักสูตรศาสนบำบัด ดัน กีรออาตี ฟื้นฟูจิตใจ ก่อนคืนสู่สังคม"

เผยแพร่เมื่อ ๑๖ ส.ค. ๒๕๖๘

ภาพประกอบข่าว

เลขาฯ ศอ.บต. เยี่ยมผู้ต้องขังเรือนจำยะลา หนุนหลักสูตรศาสนบำบัด ดัน "กีรออาตี" ฟื้นฟูจิตใจ ก่อนคืนสู่สังคม ชี้ “ทุกคนมีความสำคัญและมีคุณค่า หากได้รับการส่งเสริมและให้โอกาส”

        วันนี้ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๘ พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เดินทางเข้าเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ต้องขังในเรือนจำกลางยะลา ที่เข้าร่วมโครงการ “อบรมเตรียมความพร้อมผู้ต้องขังคดียาเสพติดก่อนกลับสู่สังคม” หลังจาก ศอ.บต.ได้สนับสนุนแบบเรียน “กีรออาตี” จำนวน ๑๐๐ ชุด เพื่อใช้เป็นสื่อการเรียนการสอน หวังฟื้นฟูจิตใจผู้ต้องขังผ่านหลักการทางศาสนา และสร้างโอกาสให้พวกเขากลับไปเป็นคนดีของสังคม

        การสนับสนุนแบบเรียนในครั้งนี้มีเป้าหมายสำคัญเพื่อช่วยให้ผู้ต้องขัง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ได้เรียนรู้การอ่านคัมภีร์อัลกุรอานอย่างถูกต้องตามหลักการ เป็นการพัฒนาทักษะและความรู้ด้านศาสนา รวมถึงสร้างโอกาสให้ผู้ที่มีความสามารถได้เข้าอบรมหลักสูตร “ครูผู้สอนกีรออาตี” เพื่อนำความรู้ไปถ่ายทอดให้ผู้อื่นในอนาคต ซึ่งจะช่วยลดโอกาสในการกลับไปกระทำผิดซ้ำหลังพ้นโทษ

        พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ กล่าวว่า โครงการนี้ทางเรือนจำกลางยะลาได้ริเริ่มมาแล้วก่อนหน้านี้ และประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง โดย ศอ.บต. เข้ามาสนับสนุนเพิ่มเติมเพื่อให้โครงการมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์ที่มุ่งพัฒนาเรือนจำให้เป็นสถานศึกษาและสถานที่บำบัดทางศาสนาไปพร้อมกัน

        “ทุกคนมีความสำคัญและมีคุณค่า หากได้รับการส่งเสริมและให้โอกาส ทุกคนก็สามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนาบ้านเมืองได้” เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าว

        ด้าน นายธวัช เอียดทิม ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดสงขลา (รักษาการแทนผู้บัญชาการเรือนจำกลางยะลา) เปิดเผยว่า เรือนจำกลางยะลามีผู้ต้องขังที่นับถือศาสนาอิสลามถึงร้อยละ ๙๐ ดังนั้นโครงการ “กีรออาตี” จึงเป็นหลักสูตรสำคัญที่ช่วยฝึกฝนการอ่านคัมภีร์อัลกุรอานอย่างถูกต้องตามมาตรฐาน และฝึกให้ผู้ต้องขังเป็นครูผู้สอน เพื่อพัฒนาพฤตินิสัย และเตรียมความพร้อมสู่การเป็นคนดีของสังคมหลังพ้นโทษ

        นอกจากนี้ เลขาธิการ ศอ.บต. ยังได้เข้าเยี่ยมและให้กำลังใจผู้ต้องขังที่เข้าร่วมโครงการพระราชทาน “โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์” และตรวจเยี่ยมศูนย์ฝึกวิชาชีพภายในเรือนจำอีกด้วย