รายงานพิเศษ - เทศบาลนครภูเก็ต ร่วมเดินหน้าแก้ปัญหาวิกฤตขยะล้นเกาะภูเก็ต และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่น่ากังวล
ภูเก็ต...ชื่อที่หลายคนทั่วโลกนึกถึง สะท้อนภาพจำของท้องทะเลสีคราม ชายหาดขาวสะอาด เมืองท่องเที่ยวระดับโลกที่ต้อนรับนักเดินทางนับสิบล้านคนต่อปี แต่เบื้องหลังเมืองที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมากมายให้มาเยือนนั้น มีปัญหาใหญ่ที่กำลังคุกคามคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ และส่งผลต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นั้นคือปัญหาขยะล้นเมือง ที่หลายฝ่ายจับตามองการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
//--ปล่อยเสียงสัมภาษณ์ นายศุภโชค ละอองเพชร นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต--//
พื้นที่ฝังกลบสะพานหิน ซึ่งสามารถรองรับปริมาณขยะได้จริงราว ๘๐๐,๐๐๐ ตัน ตอนนี้ล้นทะลุกว่าเดิม และตัวเลขนี้ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับศักยภาพในการจัดการของเมือง ที่ยังมีข้อจำกัดทั้งด้านสถานที่ งบประมาณ และเครื่องมือ โดย ขยะทั้งหมดมาจากทุกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในภูเก็ต ที่ถูกลำเลียงมายังพื้นที่ฝังกลบ ‘สะพานหิน’ ซึ่งอยู่ภายใต้ความดูแลของ เทศบาลนครภูเก็ต
เสียงจาก นายศุภโชค ละอองเพชร นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต สะท้อนความตึงเครียดที่เกิดขึ้นจริง จากปัญหาเรื่องกลิ่น แมลงวัน และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมยังคงเป็นสิ่งที่น่ากังวล
แม้จะได้รับงบสนับสนุนจากหน่วยงานส่วนกลางในปีงบประมาณ ๒๕๖๘ เพื่อรื้อร่อนขยะเก่า ๑๐๐,๐๐๐ ตัน และความช่วยเหลือจากภาคเอกชนอีกราว ๒๐๐,๐๐๐ ตัน แต่ก็ยังไม่เพียงพอ เพราะ อีก ๕๐๐,๐๐๐ ตัน ยังรอการจัดการ...และหากไม่ได้งบสนับสนุนเพิ่มเติม ก็อาจต้องกลับไปฝังกลบเหมือนเดิม แต่ทั้งนี้ อบจ. ภูเก็ตร่วมเดินหน้าจัดการกับปัญหาขยะโดยจัดสรรงบสนุนสนับจำนวน ๓๐ ล้านบาท และเทศบาลนครภูเก็ต จัดสรรงบรองรับอีก ๑๐ ล้านบาท เพื่อขยายขอบเขตการรื้อร่อนขยะเก่าออกไปอีก ๑๐๐,๐๐๐ ตัน
//--ปล่อยเสียงสัมภาษณ์ นายศุภโชค ละอองเพชร นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต--//
อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกปัญหาที่น่ากังวล ในการขอใช้พื้นที่ของรัฐกลับมีต้นทุนที่สูงมาก ปัจจุบันกรมป่าไม้มีการเรียกเก็บค่าชดเชยปลูกป่าและค่าบำรุงป่าจากผู้เข้าไปใช้ประโยชน์ในเขตป่า ที่พื้นที่แห่งนี้จะต้องจ่ายค่าชดเชยสูงเกือบ ๗๐ ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินก้อนโตที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนด้านอื่นของเทศบาลและจังหวัด นอกจากนั้นเมื่อฤดูฝนคืบคลานเข้ามา การจัดการขยะ ก็จะเป็นไปได้ยากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ๒ เท่า เพราะพื้นที่เปียกชื้นและมีน้ำขัง ทำให้รถรื้อร่อนขยะทำงานไม่ได้ และส่งผลต่อคนในชุมชนโดยตรง
//--ปล่อยเสียงสัมภาษณ์ นายศุภโชค ละอองเพชร นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต--//
ทางออกเบื้องต้นที่ทุกฝ่ายเห็นตรงกัน คือการแก้ปัญหา ตั้งแต่ต้นทาง นั่นคือ “การคัดแยกขยะ” โดยเฉพาะ ขยะอินทรีย์ ที่เป็นต้นเหตุของกลิ่นเหม็นและของเหลวไหลซึม ซึ่งหากคัดแยกตั้งแต่บ้านเรือน ก็จะช่วยลดปริมาณขยะที่เข้าสู่หลุมฝังกลบได้มากถึง ๖๐% “ขยะทุกชิ้น เริ่มต้นจากมือเรา... ถ้าเราแยกตั้งแต่ต้นทาง ก็จะช่วยลดภาระให้กับเครื่องจักร พื้นที่ฝังกลบ และงบประมาณของภาครัฐได้มหาศาล” เสียงสะท้อนจากเทศบาลนครภูเก็ต จึงไม่ใช่เพียงเสียงเรียกร้องงบประมาณจากส่วนกลาง แต่เป็นการส่งสารไปยังทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชน ว่า “ภูเก็ตกำลังวิกฤต” และทุกคนมีบทบาทในการเป็นส่วนหนึ่งของทางออกร่วมกัน
ทีมข่าว สวท.ภูเก็ต รายงาน