thumbnail

"ครูเรือง เมืองยะลา" ฟื้นฟูฟาร์มกบครบวงจร สร้างรายได้เสริมจากงานประจำ

เผยแพร่เมื่อ ๒๒/๐๘/๒๐๒๕ ๐๗:๐๔

"ครูเรือง" เมืองยะลา ฟื้นฟูฟาร์มกบครบวงจร สร้างรายได้เสริมจากงานประจำ         ที่ จังหวัดยะลา "ครูเรือง" หรือ นายเรืองเดช ทองด้วง ครูพลศึกษาหัวใจนักสู้ กลับมาฟื้นฟูฟาร์มกบ ครบวงจรอีกครั้ง ตั้งแต่การเพาะพันธุ์ การเลี้ยง ไปจนถึงการแปรรูปและส่งขายตามความต้องการของตลาดในท้องถิ่น หลังต้องหยุดพักไปนานหลายปีจากวิกฤตเศรษฐกิจและการระบาดของโควิด-๑๙ โดยใช้เวลาว่างหลังเลิกงานในการเลี้ยงกบ เพื่อสร้างรายได้เสริม พร้อมเปิดร้านอาหาร "ครูเรืองเมืองยะลา" รองรับเมนูกบสดใหม่จากฟาร์ม         จุดเริ่มต้นจากงานอดิเรกสู่ฟาร์มครบวงจร ครูเรือง เล่าว่า เริ่มต้นเลี้ยงกบมาตั้งแต่ปี ๒๕๔๕ ด้วยใจรักและต้องการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ฟาร์มแห่งนี้ ใช้พื้นที่ประมาณ ๑๐-๑๕ บ่อ มีกระบวนการเลี้ยงที่พิถีพิถัน เริ่มตั้งแต่การคัดเลือกพ่อพันธุ์แม่พันธุ์คุณภาพดี ซึ่งแม่พันธุ์ ๑ ตัว สามารถให้ลูกกบได้ถึง ๖,๐๐๐-๑๐,๐๐๐ ตัว โดยจะเลี้ยงแยกตามขนาด เพื่อป้องกันการกัดกันของกบ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการเลี้ยง        “การคัดกบเหนื่อยกว่าการเลี้ยง เพราะต้องคัดทุกตัว ทุกไซส์ ผ่านมือทุกตัว เพื่อแยกกบออกเป็น ๓-๔ ไซส์ ถ้าไม่แยกกบจะกัดกันและทำให้ตัวเล็กกว่าเสียเปรียบ” ครูเรืองเผย         ครูเรืองยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการดูแลสุขอนามัยของบ่อเลี้ยง โดยจะปูกระเบื้องที่พื้นบ่อเพื่อป้องกันเชื้อโรค ทำให้ทำความสะอาดและเปลี่ยนถ่ายน้ำได้ง่าย ไม่สิ้นเปลืองเวลา และช่วยลดอัตราการสูญเสียของกบได้อย่างมีประสิทธิภาพ         ในส่วนของการตลาด “ตลาดกบยังไปได้ดี แม้มีข้อจำกัด ในการบริโภคเฉพาะกลุ่ม มีฐานลูกค้าเก่าที่เหนียวแน่น ทั้งกลุ่มร้านอาหารในพื้นที่และตลาดสดเทศบาล โดยพ่อค้าจะมารับซื้อกบครั้งละ ๘๐-๑๐๐ กิโลกรัม ทุกๆ ๓-๕ วัน หรือตามออเดอร์ที่สั่งไว้ และยังมีลูกค้ากลุ่มชาวพุทธในพื้นที่ รวมถึง ชาวเมียนมา ที่ยังคงนิยมบริโภคกบเป็นอาหาร มาซื้อถึงหน้าฟาร์ม โดยเฉพาะการนำไปทำเมนูยอดนิยม อย่าง ผัดเผ็ดกบ และ ต้มยำกบ ซึ่งเป็นเมนูพื้นบ้านที่ได้รับความนิยมอย่างมาก” ครูเรือง กล่าวท้าย         สำหรับราคาจำหน่าย กบสดหน้าฟาร์ม ขนาดประมาณ ๕ ตัวต่อกิโลกรัม ราคา ๑๐๐ บาท กบชำแหละและแปรรูป ราคา ๑๒๐ บาท กบขนาดใหญ่พิเศษ ราคาอาจสูงถึง ๑๕๐ บาท ขึ้นอยู่กับขนาดและช่วงเวลา นอกจากนี้ ยังมีการจำหน่ายลูกพันธุ์กบขนาด ๒-๓ บาท/ตัว ซึ่งครูเรืองการันตีอัตราการรอดเกือบ ๑๐๐%         เพื่อต่อยอดธุรกิจและสร้างมูลค่าเพิ่ม ครูเรืองยังเปิดร้านอาหารของตัวเองชื่อ "ร้านครูเรืองเมืองยะลา" ซึ่งตั้งอยู่ที่ชุมชนเวฬุวัน ซอยสุขสันต์ เพื่อนำกบจากฟาร์มมาปรุงเป็นเมนูยอดนิยมหลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นผัดเผ็ดกบ, กบทอด, ต้มยำกบ และอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อให้ลูกค้าได้ลิ้มลองเมนูกบที่สดใหม่ สะอาดจากฟาร์ม โดยเน้นการควบคุมคุณภาพตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ         "ใครอยากทานกบทอดหรือเมนูอื่นๆของทางร้าน สามารถแวะไปได้ที่ร้านครูเรืองเมืองยะลา" ครูเรืองกล่าวเชิญชวน         สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเยี่ยมชมฟาร์มและลิ้มรสเมนูกบอร่อยๆ ได้ที่ร้านครูเรืองเมืองยะลา หรือติดต่อได้ที่เบอร์โทรศัพท์ ๐๘๙-๒๙๙-๘๕๒๗ และติดตามได้ทาง Facebook หรือ TikTok โดยค้นหาคำว่า "ฟาร์มกบครูเรือง" หรือ "ร้านครูเรือง"         การเลี้ยงกบจึงไม่เพียงแค่เป็นอาชีพเสริม แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจที่แสดงให้เห็นว่าการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์สามารถสร้างรายได้และความสุขได้อย่างยั่งยืน