สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ร่วมกับชมรมเทควันโด จังหวัดฉะเชิงเทรา จัดโครงการฝึกอบรมกีฬาเทควันโดเพื่อความเป็นเลิศด้านผู้ฝึกสอนกีฬาเทควันโดระดับชาติ ภาค ๑,๒ จังหวัดฉะเชิงเทรา

เผยแพร่เมื่อ ๑๙ ส.ค. ๒๕๖๘

ภาพประกอบข่าว

วันนี้ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๖๘ ณ โรงแรมซันทารา เวลเนส รีสอร์ท แอนด์ โฮเต็ล จังหวัดฉะเชิงเทรา สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ร่วมกับชมรมเทควันโด จังหวัดฉะเชิงเทรา จัดพิธีเปิดโครงการฝึกอบรมกีฬาเทควันโดเพื่อความเป็นเลิศด้านผู้ฝึกสอนกีฬาเทควันโดระดับชาติ ภาค ๑,๒ โดยมีนายวุฒิพงศ์ ฉายแสง นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายสันติ นุนาบี ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดฉะเชิงเทรา นายไพทูรย์ เวียรศิลป์ รองประธานชมรมเทควันโด จังหวัดฉะเชิงเทรา คณะวิทยากร ผู้เข้ารับการอบรม และคณะผู้จัดงาน เข้าร่วม


การจัดโครงการครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทยและชมรมเทควันโด จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเพิ่มจำนวนบุคลากรทางการกีฬาในสาขาเทควันโด และยกระดับคุณภาพของผู้ฝึกสอนให้มีศักยภาพสูงขึ้น สามารถถ่ายทอดทักษะและองค์ความรู้แก่เยาวชนและนักกีฬาที่กำลังเติบโตในอนาคต ตลอดจนผลักดันนักกีฬาไทยให้สามารถก้าวสู่ความสำเร็จทั้งในระดับชาติและระดับนานาชาติได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน


นอกจากการมุ่งเน้นด้านทักษะและวิชาการแล้ว การฝึกอบรมครั้งนี้ยังมุ่งหวังให้เกิดการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างผู้ฝึกสอนจากหลายพื้นที่ทั่วประเทศ เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ และแนวทางการพัฒนานักกีฬาในเชิงลึก รวมถึงเป็นการวางรากฐานที่มั่นคงต่อการยกระดับมาตรฐานของวงการกีฬาเทควันโดไทยให้ก้าวทันความเปลี่ยนแปลงของวงการกีฬาโลกทั้งนี้ โครงการฝึกอบรมกีฬาเทควันโดเพื่อความเป็นเลิศด้านผู้ฝึกสอนกีฬาเทควันโดระดับชาติ ได้ถูกกำหนดให้จัดขึ้นครอบคลุมทั้ง ๕ ภาคทั่วประเทศ โดยภาค ๑ และภาค ๒ ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ถือเป็นพื้นที่แรก ๆ ที่ได้ดำเนินการอบรม ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของการพัฒนาบุคลากรในสายงานผู้ฝึกสอนเทควันโดของไทย และจะเป็นต้นแบบสำหรับการจัดการฝึกอบรมในพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป


การลงทุนด้านการพัฒนาผู้ฝึกสอนครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการยกระดับบุคลากร แต่ยังเป็นการลงทุนในอนาคตของนักกีฬาไทย ที่จะได้รับการถ่ายทอดวิชาการที่ถูกต้อง มีมาตรฐาน และมีความพร้อมที่จะเติบโตสู่การเป็นนักกีฬาตัวแทนของประเทศไทยบนเวทีการแข่งขันระดับนานาชาติในอนาคต อันจะนำมาซึ่งความภาคภูมิใจแก่ประเทศชาติ และเสริมสร้างภาพลักษณ์ของวงการกีฬาไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล