วันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๘ เวลา ๐๙.๓๐ น. ที่ห้องประชุมพนมเบญจา ชั้น ๕ ศาลากลางจังหวัดกระบี่ ๙/๑๐ นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ มอบหมายให้ นายอนุวรรตน์ โหมดพริ้ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัด (คทช.จังหวัด) ครั้งที่ ๑ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๘ โดยมี นายนิธิวุฒิ ระวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วย คณะอนุกรรมการจากส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน
คณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัดกระบี่ (คทช.จังหวัด) ได้รายงานผลภาพรวม การดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาลในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและป่าชายเลนพื้นที่จังหวัดกระบี่ รวมพื้นที่เป้าหมายโครงการ คทช.ปี ๒๕๖๐-๒๕๖๘ เนื้อที่ทั้งหมด ๒๗,๔๓๘-๒-๒๐ ไร่ โดยพื้นที่เป้าหมาย คทช. ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ มีจำนวน ๑๖ แห่ง ได้รับการอนุญาตจากกรมป่าไม้แล้ว จำนวน ๙ ป่า รอหนังสืออนุญาตจากกรมป่าไม้ จำนวน ๗ ป่า และพื้นที่เป้าหมาย คทช.ในเขตป่าชายเลน จำนวน ๘๒ ชุมชน เนื้อที่รวม ๕๒๔-๒-๔๐.๕๔ ไร่ ซึ่งได้รับการอนุญาตแล้ว จำนวน ๒๔ ชุมชน เนื้อที่รวม ๑๑๑-๑-๐ ไร่ และได้รายงานผลการปฏิบัติงานส่งเสริมและพัฒนาอาชีพประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๘ จำนวน ๖ ด้าน ประกอบด้วย ด้านการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ ด้านการพัฒนาที่ดินและการใช้ประโยชน์ที่ดินบนพื้นฐานข้อมูล Zoning ด้านการส่งเสริมการจัดทำบัญชีครัวเรือน ด้านการเข้าถึงแหล่งทุน การส่งเสริมการรวมกลุ่ม และด้านการพัฒนาแหล่งน้ำและพัฒนาปัจจัยพื้นฐาน โดยทุกหน่วยงานมีกิจกรรมและแผนงานโครงการในการพัฒนาและยกระดับช่วยเหลือเกษตรกรในรูปแบบการพัฒนาและยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ ในที่ประชุมได้ พิจารณาแนวทางการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นในพื้นที่ คทช. ซึ่งพื้นที่ คทช.ที่ได้รับความเห็นชอบจาก คทช.จังหวัดเรียบร้อยแล้วสามารถดำเนินการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคในพื้นที่ คทช.ได้ทันที เมื่อได้รับอนุญาตจากเจ้าของพื้นที่ให้ดำเนินโครงการพัฒนา ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับการจัดที่ดินทำกินในพื้นที่ คทช. จะได้รับการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นจากหน่วยงานภาครัฐตามแนวทางการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นในพื้นที่ คทช. ทำให้สามารถเข้าถึงการบริการระบบสาธารณูปขั้นพื้นฐานที่ภาครัฐจัดสรรให้ เกิดการพัฒนาส่งเสริมอาชีพและการใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด