ในช่วงค่ำของการประชุมประชุมสภาผู้แทนราษฎร
เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙ ในวาระที่
๒ (ลงมติรายมาตรา) และวาระที่ ๓ (ลงมติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ๒๕๖๙ ทั้งฉบับ)
เป็นไปอย่างราบรื่น
•
สภาฯ เห็นชอบงบฯ คลัง - งบฯ กต.
โดยในเวลา
๑๙.๐๐ น. การประชุมเข้าสู่การอภิปราย มาตรา ๙ กระทรวงการคลัง วงเงิน
๑๔,๑๙๓,๕๑๔,๐๐๐ บาท ซึ่งที่ประชุมเปิดให้สมาชิกอภิปรายอย่างกว้างขวาง
ขณะที่
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รองประธานคณะกรรมาธิการ วิสามัญ
ได้ตอบประเด็นคำถามในเรื่องของการจัดซื้อ
ที่มีข้อสงสัยเรื่องเครื่องปรับอากาศของกรมบัญชีกลางและกรมศุลกากร
ที่มีราคาต่างกัน โดยระบุว่า ทั้ง ๒ หน่วยงานได้ทำคำขอมา เป็นไปตามมาตรฐานครุภัณฑ์
และระเบียบจัดซื้อจัดจ้างทุกประการ เป็นไปตามราคากลางที่กำหนด
โดยการเสนอตั้งงบประมาณของเครื่องปรับอากาศของทั้ง ๒ หน่วยงานเป็นไปตามเกณฑ์
แต่ราคาแตกต่างเนื่องจากมีคุณลักษณะและแบบที่แตกต่างกัน
แต่ทั้งหมดเป็นไปตามระเบียบวิธีการของการจัดซื้อจัดจางและราคากลางทุกประการ ไม่มีผิดปกติ
เพราะได้ตั้งอนุคณะกรรมาธิการโดยเฉพาะในด้านครุภัณฑ์
และไปดูในแต่ละรายการสินค้าอย่างละเอียด
ยืนยันไม่มีความผิดพลาดจากการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนของคณะกรรมาธิการแน่นอน
จากนั้นมีการลงมติ
โดยที่ประชุมมีมติเห็นด้วย กับมาตรา ๙ ตาม กมธ.เสียงข้างมาก ด้วยคะแนน ๒๕๒ เสียง
ไม่เห็นด้วย ๑๓๓ เสียง งดออกเสียง ๓ เสียง และไม่ลงคะแนนเสียง ๒ เสียง
•
ห่วงการจัดสรรงบฯ กต. หวั่นถูกมองเอนเอียง
จากนั้นการประชุม
ได้เข้าสู่การพิจารณามาตรา ๑๐ กระทรวงต่างประเทศ วงเงิน ๕,๐๐๕,๘๕๔,๔๐๐ บาท โดย
น.ส.ธิษะณา ชุณหะวัณ สส.กทม. พรรคประชาชน
อภิปรายแสดงความเป็นห่วงการใช้งบประมาณจัดกิจกรรมฉลองความสัมพันธ์ไทย-จีน สูงถึง
๖๑.๑ ล้านบาท สูงเกินความจำเป็น เพราะไทย-จีนมีสัมพันธ์แน่นแฟ้นอยู่แล้ว
และการจัดกิจกรรมดังกล่าว ไทยอาจถูกมองว่า เอนเอียง
เข้าข้างมหาอำนาจประเทศใดประเทศหนึ่ง เสี่ยงต่อการผูกขาดการทูตไม่สมดุล
ไม่ช่วยสร้างสมดุลระหว่างประเทศมหาอำนาจ ในยุคสงครามภาษีที่ยังไม่มีความแน่นอน
•
ภาพรวมอภิปรายช่วงค่ำ เป็นไปอย่างราบรื่น
จากนั้นการอภิปราย
ได้สู่มาตรา ๑๑ งบประมาณรายจ่ายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหน่วยงานในกำกับ
ต่อด้วยมาตรา ๑๒ งบประมาณรายจ่ายของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
และหน่วยงานในกำกับ รวมทั้งมาตรา ๑๓ งบประมาณรายจ่ายของกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม และหน่วยงานในกำกับ ซึ่งการอภิปรายเป็นไปอย่างราบรื่น
โดยหลังจากที่มีการอภิปรายรายมาตรา
ทั้ง ๓ มาตราแล้ว สมาชิกก็มีการลงมติเห็นด้วยตาม กมธ.เสียงข้างมาก
•
“วิโรจน์” หวั่น เปิดช่องทางนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
ส่วนมาตรา
๑๔ งบประมาณรายจ่ายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานในกำกับ
ถือเป็นอีกหนึ่งมาตราที่มีการอภิปรายอย่างเข้มข้น โดย นาย วิโรจน์ ลักขณาอดิศร
สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้ลุกขึ้นอภิปราย
โดยได้งัดประเด็นเรื่องการพยากรณ์สินค้าเกษตรล่วงหน้า โดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
ที่ไม่ได้เป็นไปตามแผน
ซึ่งอาจเป็นเครื่องมือให้กับนายทุนนำเข้าข้าวโพดจากต่างประเทศ
ส่งผลกระทบเกษตรกรในประเทศไทย
ขณะที่
ชุติมา คชพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ก็ได้อภิปราย โดยเป็นห่วงการใช้งบฯ
ของกรมประมง ที่ยังไม่สอดคล้องกับชาวประมง และทุกเครือข่ายของระบบประมงของประเทศ
ซึ่งการจัดสรรงบฯ อาจจะไม่คุ้มค่ากับการลงทุน.