เห็นชอบงบฯ คลัง ๑.๔ หมื่นล้าน...ห่วง “งบฯ กต.” ถูกมองเอนเอียง

เผยแพร่เมื่อ ๑๓ ส.ค. ๒๕๖๘

ภาพประกอบข่าว

ในช่วงค่ำของการประชุมประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙ ในวาระที่ ๒ (ลงมติรายมาตรา) และวาระที่ ๓ (ลงมติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ๒๕๖๙ ทั้งฉบับ) เป็นไปอย่างราบรื่น

 

• สภาฯ เห็นชอบงบฯ คลัง - งบฯ กต.

โดยในเวลา ๑๙.๐๐ น. การประชุมเข้าสู่การอภิปราย มาตรา ๙ กระทรวงการคลัง วงเงิน ๑๔,๑๙๓,๕๑๔,๐๐๐ บาท ซึ่งที่ประชุมเปิดให้สมาชิกอภิปรายอย่างกว้างขวาง

 

ขณะที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รองประธานคณะกรรมาธิการ วิสามัญ ได้ตอบประเด็นคำถามในเรื่องของการจัดซื้อ ที่มีข้อสงสัยเรื่องเครื่องปรับอากาศของกรมบัญชีกลางและกรมศุลกากร ที่มีราคาต่างกัน โดยระบุว่า ทั้ง ๒ หน่วยงานได้ทำคำขอมา เป็นไปตามมาตรฐานครุภัณฑ์ และระเบียบจัดซื้อจัดจ้างทุกประการ เป็นไปตามราคากลางที่กำหนด โดยการเสนอตั้งงบประมาณของเครื่องปรับอากาศของทั้ง ๒ หน่วยงานเป็นไปตามเกณฑ์ แต่ราคาแตกต่างเนื่องจากมีคุณลักษณะและแบบที่แตกต่างกัน แต่ทั้งหมดเป็นไปตามระเบียบวิธีการของการจัดซื้อจัดจางและราคากลางทุกประการ ไม่มีผิดปกติ เพราะได้ตั้งอนุคณะกรรมาธิการโดยเฉพาะในด้านครุภัณฑ์ และไปดูในแต่ละรายการสินค้าอย่างละเอียด ยืนยันไม่มีความผิดพลาดจากการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนของคณะกรรมาธิการแน่นอน

 

จากนั้นมีการลงมติ โดยที่ประชุมมีมติเห็นด้วย กับมาตรา ๙ ตาม กมธ.เสียงข้างมาก ด้วยคะแนน ๒๕๒ เสียง ไม่เห็นด้วย ๑๓๓ เสียง งดออกเสียง ๓ เสียง และไม่ลงคะแนนเสียง ๒ เสียง

 

• ห่วงการจัดสรรงบฯ กต. หวั่นถูกมองเอนเอียง

จากนั้นการประชุม ได้เข้าสู่การพิจารณามาตรา ๑๐ กระทรวงต่างประเทศ วงเงิน ๕,๐๐๕,๘๕๔,๔๐๐ บาท โดย น.ส.ธิษะณา ชุณหะวัณ สส.กทม. พรรคประชาชน อภิปรายแสดงความเป็นห่วงการใช้งบประมาณจัดกิจกรรมฉลองความสัมพันธ์ไทย-จีน สูงถึง ๖๑.๑ ล้านบาท สูงเกินความจำเป็น เพราะไทย-จีนมีสัมพันธ์แน่นแฟ้นอยู่แล้ว และการจัดกิจกรรมดังกล่าว ไทยอาจถูกมองว่า เอนเอียง เข้าข้างมหาอำนาจประเทศใดประเทศหนึ่ง เสี่ยงต่อการผูกขาดการทูตไม่สมดุล ไม่ช่วยสร้างสมดุลระหว่างประเทศมหาอำนาจ ในยุคสงครามภาษีที่ยังไม่มีความแน่นอน

 

• ภาพรวมอภิปรายช่วงค่ำ เป็นไปอย่างราบรื่น

จากนั้นการอภิปราย ได้สู่มาตรา ๑๑ งบประมาณรายจ่ายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหน่วยงานในกำกับ ต่อด้วยมาตรา ๑๒ งบประมาณรายจ่ายของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหน่วยงานในกำกับ รวมทั้งมาตรา ๑๓ งบประมาณรายจ่ายของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม และหน่วยงานในกำกับ ซึ่งการอภิปรายเป็นไปอย่างราบรื่น

 

โดยหลังจากที่มีการอภิปรายรายมาตรา ทั้ง ๓ มาตราแล้ว สมาชิกก็มีการลงมติเห็นด้วยตาม กมธ.เสียงข้างมาก

 

• “วิโรจน์” หวั่น เปิดช่องทางนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์

ส่วนมาตรา ๑๔ งบประมาณรายจ่ายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานในกำกับ ถือเป็นอีกหนึ่งมาตราที่มีการอภิปรายอย่างเข้มข้น โดย นาย วิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้ลุกขึ้นอภิปราย โดยได้งัดประเด็นเรื่องการพยากรณ์สินค้าเกษตรล่วงหน้า โดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่ไม่ได้เป็นไปตามแผน ซึ่งอาจเป็นเครื่องมือให้กับนายทุนนำเข้าข้าวโพดจากต่างประเทศ ส่งผลกระทบเกษตรกรในประเทศไทย

 

ขณะที่ ชุติมา คชพันธ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ก็ได้อภิปราย โดยเป็นห่วงการใช้งบฯ ของกรมประมง ที่ยังไม่สอดคล้องกับชาวประมง และทุกเครือข่ายของระบบประมงของประเทศ ซึ่งการจัดสรรงบฯ อาจจะไม่คุ้มค่ากับการลงทุน.