วันนี้ (๑๓ ส.ค.๖๘) เวลา ๐๙.๓๖ น. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (ช่วงที่ ๑) กราบเรียน ท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรที่เคารพและท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผู้ทรงเกียรติทุกท่านครับ กระผม นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙
ขอเสนอรายงานการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙ ต่อท่านประธานและท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตามที่สภาผู้แทนราษฎรได้ประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙ ซึ่งคณะรัฐมนตรีเสนอ และได้มีมติรับหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวในวาระที่หนึ่ง เมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๘ และมีมติแต่งตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙ นั้น คณะกรรมาธิการวิสามัญได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ปรากฏรายละเอียดตามรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญ ซึ่งได้เสนอสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกท่านแล้ว กระผมขอเรียนสรุปสาระสำคัญของผลการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๙ ต่อที่ประชุม ดังนี้
คณะกรรมาธิการวิสามัญ ได้เริ่มพิจารณาร่างพระราชบัญญัติตั้งแต่วันที่ ๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๘ จนแล้วเสร็จในวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๖๘ โดยได้ร่วมกันพิจารณารายละเอียดงบประมาณของหน่วยรับงบประมาณรวม ๒,๙๘๕ หน่วยรับงบประมาณ ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินภารกิจเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นโยบายและแผนระดับชาติว่า ด้วยความมั่นคงแห่งชาติ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมทั้งแผนปฏิบัติราชการของกระทรวง โดยพิจารณาตามความจำเป็นและภารกิจของหน่วยรับงบประมาณ และแผนพัฒนาพื้นที่ตามความต้องการของประชาชน ตลอดจนคำนึงถึงฐานะการคลังเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนหน่วยรับงบประมาณภายใต้หลักธรรมาภิบาลสุจริต โปร่งใสและเป็นธรรมเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชน โดยมีข้อสังเกตในภาพรวมที่สำคัญเพื่อให้รัฐบาลดำเนินการเกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙ ซึ่งมีแนวโน้มชะลอตัว กว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลกระทบต่องบประมาณทั้งด้านรายได้และรายจ่ายการเตรียมงบประมาณเพื่อรองรับมาตรการกีดกันทางการค้าของประเทศเศรษฐกิจหลัก และการบริหารจัดการหนี้สาธารณะให้ลดลงในระยะยาว เพื่อให้มีพื้นที่การคลังไว้ใช้ในยามที่เกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจโดยไม่กระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังในอนาคต พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาแต่ละจังหวัดที่มีความเฉพาะเจาะจงและแตกต่างกันไปตามบริบทในพื้นที่ โดยให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงในพื้นที่รวมทั้งหน่วยและงบประมาณ ควรมีการแสดงข้อมูลการใช้เงินนอกงบประมาณ ที่แสดงให้เห็นถึงแผนการดำเนินงานประจำปี เพื่อให้การพิจารณางบประมาณมีความครอบคลุมทุกแหล่งเงินและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ในการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๙ จำนวน ๘ คณะ และคณะกรรมาธิการวิสามัญได้ปรับลดงบประมาณจำนวน ๘,๙๒๐,๗๘๑,๓๐๐ บาทถ้วน โดยได้พิจารณาจากความสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน รวมทั้งเป้าหมายและผลการดำเนินงานจริง ความคุ้มค่า และความพร้อมในการดำเนินงานและศักยภาพในการใช้จ่ายงบประมาณตลอดจนให้ความสำคัญกับเงินนอกงบประมาณ หรือรายได้ที่จัดเก็บของหน่วยรับงบประมาณ เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณา อาทิ หนึ่งรายการที่มีผลการดำเนินงานล่าช้ากว่าแผนที่กำหนดไว้ และคาดว่าไม่สามารถใช้จ่ายได้ทันภายในปีงบประมาณ หรือรายการผูกพันงบประมาณเดิมที่มีผลการจัดซื้อจัดจ้างต่ำกว่าวงเงินงบประมาณที่เสนอไว้ ๒ รายการ ที่ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันหรือที่ได้ดำเนินการไปแล้ว ซึ่งไม่เป็นค่าใช้จ่ายในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งบประมาณ ๓ รายการ ที่สามารถชะลอได้โดยไม่กระทบภารกิจให้บริการประชาชน หรือทบทวนโครงการให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย ๔ รายการที่ยกเลิกโครงการ หรือสามารถใช้เงินจากแหล่งอื่นนอกเหนือจากเงินงบประมาณได้ เช่น เงินนอกงบประมาณ หรือรายได้ที่จัดเก็บเองหรือเงินสะสมคงเหลือ สำหรับการเพิ่มงบประมาณนั้น คณะกรรมาธิการวิสามัญได้พิจารณาเพิ่มงบประมาณตามความเหมาะสมจำเป็นให้เพียงพอกับการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงาน ดังนี้
๑.งบกลางเป็นค่าใช้จ่ายรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็น
๒. สำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล องค์การมหาชน เป็นค่าใช้จ่ายบุคลากรเงินเดือนของพนักงานและค่าใช้จ่ายส่วนควบ
๓. กระทรวงการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลังเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการเป็นเจ้าภาพ จัดการประชุมประจำปีสภาผู้ว่าการธนาคารโลก และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ปี ๒๕๖๙
๔. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการเป็นค่าใช้จ่ายสนับสนุนปรับสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยสำหรับคนพิการ
๕. กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมฝนหลวง และการบินเกษตร เป็นแค่จ่ายสำหรับโครงการ บรรเทาปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM๒.๕
๖. กระทรวงยุติธรรม กรมคุมประพฤติเป็นค่าใช้จ่ายในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสำหรับการติดตามผลระหว่างที่ถูกคุมความประพฤติของผู้ถูกคุมความประพฤติคดียาเสพติด
๗. กระทรวงแรงงาน สำนักงานประกันสังคมเป็นค่าใช้จ่ายตามสิทธิในการชำระเงินสมทบของฝ่ายรัฐบาลสำหรับเงินสมทบกองทุนประกันสังคมในส่วนที่รัฐค้างชำระ
๘. รัฐวิสาหกิจ การรถไฟมวลชนแห่งประเทศไทย เป็นค่าใช้จ่ายสนับสนุนค่างานโยธาตามสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรม กรุงเทพมหานคร
๙. หน่วยงานของศาลและองค์กรของหน่วยงานอิสระและองค์กรอัยการ ได้แก่ สำนักงานศาลปกครอง สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นค่าใช้จ่ายบุคลากร และค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนการดำเนินงานตามภารกิจหน่วยงานให้เพียงพอ รวมจำนวนทั้งสิ้น ๘,๙๒๐,๗๘๑,๓๐๐ บาทถ้วน วงเงินตามจำนวนที่ปรับลดงบประมาณได้
นอกจากนี้คณะกรรมาธิการวิสามัญได้พิจารณาอนุมัติให้มีการเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙ ประกอบด้วย
๑. การถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ ๖๐ พรรษา นวมินทราชินี (สอน.) และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โดยขอลดงบประมาณรายจ่ายของกระทรวงสาธารณสุขในส่วนที่เกี่ยวกับการถ่ายโอนบุคลากรของ สอน. รพ.สต. และจากสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวน ๗๐,๗๑๗,๕๐๐ บาทถ้วน เพื่อเสนอขอเพิ่มงบประมาณให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นเงินอุดหนุนสำหรับสนับสนุนการถ่ายโอนบุคลากรสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ ๖๐ พรรษา นวมินราชินี และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด จำนวน ๑๓ แห่ง
๒. การยุบรวมองค์การบริหารส่วนตำบล ภายใต้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย โดยร่วมกับเทศบาล โดยขอลดงบประมาณของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย จำนวน ๑๑๔,๕๓๙,๕๐๐ บาทถ้วน เพื่อเสนอของบประมาณให้กับเทศบาลเมืองจำนวน ๓ แห่ง และเทศบาลตำบลจำนวน ๑ แห่ง ท่านประธานที่เคารพ ผมขอกราบเรียนว่า การพิจารณารายละเอียดงบประมาณทั้งการปรับลด การเพิ่ม และการเปลี่ยนแปลงงบประมาณดังกล่าว คณะกรรมาธิการวิสามัญได้ให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับความพร้อมและศักยภาพของหน่วยงาน ความซ้ำซ้อน เป้าหมายการดำเนินงานผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ภารกิจเพื่อสนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ การแก้ไขปัญหาความเป็นอยู่ของประชาชนและประโยชน์ต่อประชาชนโดยตรงเป็นสำคัญรวมทั้งสนับสนุนให้เศรษฐกิจ เติบโตและมีความเข้มแข็ง รองรับผลกระทบทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอกประเทศได้อย่างมีเสถียรภาพตลอดจนการดำเนินการนั้น ต้องไม่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สามารถดำเนินการภายในกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายจำนวน ๓,๗๘๐,๖๐๐ ล้านบาทถ้วน
สำหรับรายละเอียดผลการพิจารณา รวมทั้งข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญ ปรากฏตามเอกสารรายงานคณะกรรมาธิการวิสามัญที่ได้แจกให้ท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติแล้วรวม ๔ เล่ม คือ เล่มที่หนึ่ง เป็นร่างรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญ เล่มที่ ๒ เป็นร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๙ เล่มที่ ๓ เป็นรายงานผลการพิจารณารายงานรายการปรับลดงบประมาณ และเล่มที่ ๔ เป็นรายงานผลการพิจารณารายการเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณ ท่านประธานที่เคารพ กระผมขอถือโอกาสนี้ขอบคุณท่านกรรมาธิการวิสามัญทุกท่านที่ได้ให้ความสำคัญเสียสละเวลาและร่วมมือกันในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙ อย่างเต็มที่ จนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี พร้อมทั้งขอขอบคุณท่านหัวหน้าหน่วยรับงบประมาณทุกท่าน ที่ได้ความร่วมมือในการชี้แจงรายละเอียดและจัดเตรียมเอกสารให้คณะกรรมาธิการวิสามัญเป็นอย่างดี สุดท้ายนี้ กระผมและคณะกรรมาธิการวิสามัญยินดีและพร้อมที่จะชี้แจงข้อซักถามของท่านสมาชิกผู้ทรงเกียรติในแต่ละมาตราต่อไปขอบคุณ ขอบคุณท่านประธานคณะกรรมาธิการ