นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงเพิ่มเติม ต่อท่าทีของฝ่ายกัมพูชาเกี่ยวกับประเด็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในช่วงที่ผ่านมา ตั้งแต่การไม่ยอมรับข้อเสนอของไทยในการร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิดในการประชุม RBC ระหว่างกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด กับกองบัญชาการภูมิภาคทหารที่ ๓ ของกองทัพบกกัมพูชา ซึ่งฝ่ายกัมพูชาระบุว่า ต้องขึ้นอยู่กับพัฒนาการของการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิง ตลอดจนเสนอให้มีความร่วมมือเฉพาะในบริเวณที่มีการปักปันเขตแดนแล้วเสร็จก่อน
ท่าทีดังกล่าว ย้อนแย้งกันอย่างชัดเจนกับที่กัมพูชาอ้างว่าให้ความสำคัญกับการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม แต่กลับสร้างเงื่อนไขและปล่อยให้อาวุธร้ายแรงเช่นนี้ยังคงอยู่และถูกนำไปใช้ ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของ GBC อย่างชัดเจน และตอกย้ำเจตนารมณ์ที่จะยังคงละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศต่อไป
นอกจากนี้ การที่นายเฮง รัตนา ผู้อำนวยการสำนักงานปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติกัมพูชา (CMAC) กล่าวอ้างว่าทุ่นระเบิด PMN-๒ ที่ฝ่ายไทยนำมาเสนอต่อคณะทูต องค์การระหว่างประเทศ และสื่อมวลชนที่ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ไม่ได้ก่อให้เกิดอันตรายเนื่องจากยังไม่ได้ปลดสลักนิรภัยนั้น โฆษกกองทัพบกไทยได้ชี้แจงแล้วว่า เป็นการนำเสนอข้อมูลบางส่วน หวังบิดเบือนให้เกิดความสับสน การสื่อสารท่าทีของกัมพูชาในเรื่องนี้ จึงแสดงถึงความย้อนแย้งระหว่างหลักการและการกระทำอย่างชัดเจน
กระทรวงการต่างประเทศ จะยังคงเดินหน้าเรียกร้องให้กัมพูชากลับมาร่วมมือกับไทยในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดอย่างจริงจังและจริงใจ โดยเฉพาะ ภายใต้กลไกอนุสัญญาออตตาวา ที่จะมีการประชุมในวันที่ ๒๒ สิงหาคม นี้ หรือโดยการนำคณะทูตมาพิสูจน์ข้อมูลและหลักฐานด้วยตนเอง เพื่อให้ทุกประเทศและทุกองค์กร ร่วมกันกดดันให้กัมพูชาปฏิบัติตามพันธกรณี ในฐานะรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาที่มีความรับผิดชอบ
ข่าว ปริญวิศน์ เปี่ยมสมบูรณ์ สวท.