วันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๘ เวลา ๑๓.๓๐ น. ที่สนามหน้าอาคารตำรวจภูธร จังหวัดอุตรดิตถ์ ต.น้ำริด อ.เมืองอุตรดิตถ์ จ.อุตรดิตถ์ ภายใต้อำนวยการของ พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดรงควิบูลย์ ผบช.ภ.๖, พล.ต.ต.อมรศักดิ์ เกษม์สิริ รอง ผบช.ภ.๖, นายสราวุธ ภักดี ผอ.สำนักงาน ป.ป.ส.ภาค ๕, นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ มอบหมายให้นายพชรเสฏฐ์ บุญศิริสาริศา รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์, พล.ต.ต.สุทธิพงศ์ เป๊กทอง ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์, พ.ต.อ.สุเทพ ประภากรณ์ รอง ผบก.ภ.จว.อุตรดิตถ์, ว่าที่ พ.ต.อ.ยงยุทธ แสงศรี ผกก.สภ.ท่าปลา ร่วมแถลงผลการจับกุมคดียาเสพติดรายสำคัญ เมื่อวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๘ เวลา ๒๓.๓๐ น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าปลา ได้จับกุมคดียาเสพติด ๑ ราย ผู้ต้องหา ๔ คน ยาบ้า ๑,๔๘๐,๐๐๐ เม็ด ยึดทรัพย์สินจำนวน ๙ รายการ ราคาประมาณ ๑,๔๔๐,๐๐๐ บาท ในพื้นที่ อ.ท่าปลา ซึ่งมีผู้ต้องหาประกอบด้วย นายอภิลักษณ์ หรือเค อายุ ๒๔ ปี ภูมิลำเนา จ.ขอนแก่น, นางสาววิภา หรือต่าย อายุ ๒๕ ปี ภูมิลำเนา จ.ชัยภูมิ, นายสันติภาพ หรือซีร็อก อายุ ๒๐ ปี ภูมิลำเนา กรุงเทพฯ, นางสาวพรสวรรค์ หรือนาดา อายุ ๒๐ ปี ภูมิลำเนา จ.อุบลราชธานี ซึ่งเจ้าหน้าที่จับกุมได้บริเวณบนถนนสาธารณะหน้าวัดประชาธรรม ม.๑๑ ต.จริม อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ ต่อเนื่อง สภ.ท่าปลา ของวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๘ เวลา ๒๓.๐๐ น. ตรวจยึดของกลางยาบ้าจำนวนประมาณ ๑,๔๘๐,๐๐๐ เม็ด, เคตามีน ๐.๕ กรัม, โทรศัพท์มือถือจำนวน ๗ เครื่อง, รถยนต์กระบะส่วนบุคคล ชนิดกระบะตอนเดียว ยี่ห้ออีซูซุ จำนวน ๒ คัน รวมราคาทรัพย์สินทั้งหมดประมาณ ๑,๔๔๐,๐๐๐ บาท พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันจำหน่ายโดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (เมทแอมเฟตามีน) ยาบ้า กระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคง หรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไป โดยผู้ถูกจับรับทราบข้อกล่าวหาแล้วให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
.
ตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยชัย) รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายร่วมประกาศปฏิญญา รวมพลัง ยับยั้งปัญหายาเสพติด โดยมีกำหนดการปฏิบัติการ QUICK WIN ๓ เดือน ตั้งแต่ ๑๗ ก.ค. ๖๘ - ๑๖ ต.ค. ๖๘ เพื่อทำลายเครือข่ายผู้ค้า นำผู้เสพเข้ารับการบำบัด และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ตำรวจทุกสถานีตำรวจ ผู้บังคับการตำรวจภูธรทุกจังหวัด สนองนโยบายรัฐบาล NO Drugs NO Dealers เอ็กซเรย์ค้นหาผู้เสพ กวาดล้างจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในชุมชนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ตลอดจนเน้นการสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติด จากนั้นได้มีการแถลงพฤติการณ์ผู้ต้องหา ซึ่งก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจสกัดกั้นยาเสพติดนางพญา อ.ท่าปลา ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีรถกระบะต้องสงสัย ๒ คัน ลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากมาจากพื้นที่ภาคเหนือ จนกระทั่งต่อมาวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๘ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบระบบกล้องตรวจจับแผ่นป้ายทะเบียน (License Plate Record) พบว่ารถต้องสงสัยได้ขับผ่านด่านร้องเข็ม อ.ร้องกวาง จ.แพร่ เวลาประมาณ ๒๐.๐๐ น. โดยมีรถยนต์ ๒ คันนำหน้า เป็นรถยนต์กระบะสีขาว ตู้ทึบ ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน ๔ ฒค ๓๘๑๓ และอีกคันเป็นรถยนต์กระบะสีแดง ตู้ทึบ ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน ๓ ฆห ๔๙๒๗ กรุงเทพมหานคร จากนั้นจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ โดยว่าที่ พ.ต.อ.ยงยุทธ แสงศรี ผกก.สภ.ท่าปลา ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.ท่าปลา และสายตรวจรถยนต์ สายตรวจตำบลจริม ดำเนินการเพื่อตั้งจุดสกัดกั้น ตรวจค้น จับกุม และต่อมาเวลาประมาณ ๒๒.๓๐ - ๒๒.๓๙ น. เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจสกัดกั้นยาเสพติดนางพญา ได้แจ้งกับชุดปฏิบัติการว่า ได้มีรถคันต้องสงสัยทั้ง ๒ คัน ขับผ่านด่านตรวจนางพญา ลงไปทางถนนสาธารณะ ต.จริม แล้ว ให้ชุดปฏิบัติเข้าตรวจสอบด้วย จากนั้นชุดจับกุมร่วมกันตั้งจุดสกัดกั้นบริเวณถนนสาธารณะหน้าวัดประชาธรรม ม.๑๑ ต.จริม อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ จนได้พบรถยนต์ต้องสงสัยทั้ง ๒ คัน ลักษณะตรงกับที่แจ้ง ขับตรงเข้ามาทางจุดสกัดกั้นดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวและเรียกให้รถยนต์กระบะดังกล่าวหยุด พบชายหญิงรวม ๔ คน อยู่ในรถ ๒ คัน จึงเข้าทำการตรวจค้น
.
ผลการตรวจค้นพบยาบ้าจำนวน ๘ กระสอบ อยู่ในรถยนต์กระบะสีแดง ตู้ทึบ ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน ๓ ฒห ๔๙๒๗ กรุงเทพมหานคร โดยนายอภิลักษณ์ หรือเค ผู้ต้องหา รับว่าของกลางที่ตำรวจพบเป็นยาบ้าของตนเองจริง และให้การเพิ่มเติมว่า ยาบ้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพบนั้น ตนได้ถูกว่าจ้างให้ขับรถยนต์คันดังกล่าวไปขนยาบ้ามาจาก จ.เชียงราย และจะนำส่ง จ.นนทบุรี โดยให้ค่าจ้างจำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าปลา เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป จากการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางจำนวนมากในครั้งนี้ เป็นความวิริยอุตสาหะของเจ้าหน้าที่ตำรวจด่านสกัดกั้นยาเสพติดนางพญา ซึ่งเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดมาโดยตลอด จนสามารถจับกุมได้ การลักลอบลำเลียงยาเสพติดในครั้งนี้มีผู้บงการในการจ้างวานในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือตอนบนสู่พื้นที่ตอนในของประเทศ โดยมีการแบ่งหน้าที่กันทำอย่างชัดเจน เพื่อหาวิธีที่จะหลีกเลี่ยงเส้นทางในการลักลอบลำเลียงยาเสพติดโดยไม่ให้ถูกจับกุม ซึ่งตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ยังคงเฝ้าระวังกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติดในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายของรัฐบาลและตำรวจต่อไป
.
ในการนี้รองผู้ว่าราชการจังหวัดกล่าวว่า นายศิริวัฒน์ บุปผาเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ มีนโยบายด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดที่มุ่งเน้นการดำเนินการตั้งแต่ระดับครอบครัว ชุมชน ตำบล เป็นต้นมา โดยใช้ภาคีเครือข่ายในพื้นที่ช่วยกันสอดส่องดูแลสร้างสังคมที่เข้มแข็ง พร้อมเน้นย้ำว่าเมื่อใดมีผู้เสพในพื้นที่ แสดงว่ามีผู้ค้าในพื้นที่ด้วย ซึ่งเมื่อพบทั้งผู้ค้าและผู้เสพ จะต้องดำเนินการตามกฎหมายนำเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาส่งเสริมให้เกิดการบูรณาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มแข็งต่อไป
.
ภาพข่าว สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุตรดิตถ์
๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๘