ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ ๒ สรุปสถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๘ (ณ เวลา ๑๔.๐๐ น.)

เผยแพร่เมื่อ ๑๔ ส.ค. ๒๕๖๘

ภาพประกอบข่าว

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ ๒ ขอแถลงสถานการณ์การตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ประจำวันที่    ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๘ ถึงเวลา ๑๔.๐๐ น. โดยมีรายละเอียด ดังนี้

         สถานการณ์โดยรวม เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบอากาศยานไร้คนขับ(โดรน) ในพื้นที่ตอนใน จว.สุรินทร์ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี นครราชสีมา และจังหวัดร้อยเอ็ด จำนวน ๙๔ ลำ และในพื้นที่ตามแนวชายแดน ๕ พื้นที่ จำนวน ๒๕ ถึง ๓๐ ลำ บินเข้ามาในเขตอธิปไตยของไทย และตรวจพบความเคลื่อนไหวทหารกัมพูชา พยายามเข้ามาเกาะแนวลวดหนามหีบเพลงบริเวณฐานปฏิบัติการฝ่ายเรา และพยายามที่จะข้ามลวดหนามเข้ามา ฝ่ายเราได้ดำเนินการปฏิบัติตามกฎการปะทะ ทหารกัมพูชาจึงได้ถอยออกไปจากพื้นที่ ปัจจุบันไม่มีการปะทะ ฝ่ายเรายังคงมีการตรึงกำลังที่ฐานปฏิบัติการในเขตอธิปไตยของไทย มีการเตรียมพร้อมและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยยึดมั่นตามข้อตกลงของการประชุม GBC ที่ผ่านมา

การทำพื้นที่ให้ปลอดภัย จัดชุดทำลายล้างวัตถุระเบิด หรือชุด EOD เข้าตรวจสอบพื้นที่ เพื่อทำลายวัตถุระเบิดที่ยังตกค้าง โดยได้ตรวจสอบแล้ว ๒๖๙ พื้นที่ รอการตรวจสอบ ๔๓ พื้นที่ และอยู่ระหว่างดำเนินการรอทำลาย ๙ พื้นที่ โดยเน้นย้ำ ประชาชนหากพบวัตถุต้องสงสัยให้รีบดำเนินการแจ้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทันที เพื่อทำการเข้าตรวจสอบต่อไป

งานด้านกิจการพลเรือน การประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจแก่ประชาชน กองทัพภาคที่ ๒ โดย กองกำลังสุรนารี ได้จัดชุดปฏิบัติการด้านกิจการพลเรือน กองกำลังสุรนารีที่ ๒๑๖ ถึง ๒๒๒ จำนวน ๗ ชุด ลงพื้นที่ในจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี เพื่อประชาสัมพันธ์และ     สร้างความเข้าใจกับประชาชน ป้องกันการเกิดความเข้าใจผิดและความตื่นตระหนก จากกระแสข่าวปลอม (Fake News) ที่อ้างว่าจะมีการปะทะรอบที่ ๒ โดยเฉพาะกลุ่มประชาชนที่ได้อพยพเข้ามาในพื้นที่ เพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง พร้อมขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากหน่วยงานของรัฐ กองทัพบก และกองทัพภาคที่ ๒

การช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์  จากการสำรวจความเสียหายในพื้นที่ ๔ จังหวัด พบว่ามีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบรวมทั้งสิ้น ๒๕๖ หลังคาเรือน แบ่งเป็น

- ความเสียหายเล็กน้อย จำนวน ๑๘๕ หลังคาเรือน

- ความเสียหายมาก จำนวน ๒๙ หลังคาเรือน

- ความเสียหายทั้งหลัง (เกินร้อยละ ๗๐) จำนวน ๔๒ หลังคาเรือน

ปัจจุบันทางจังหวัดได้รวบรวมข้อมูลความเสียหาย และวางแผนให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยบางส่วนได้เข้าดำเนินการซ่อมแซมเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากหลายภาคส่วน อาทิ งบกลางเพื่อบรรเทาสาธารณภัย งบจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยจังหวัด สภากาชาดไทย และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด รวมถึงการสนับสนุนกำลังพลจากหน่วยทหาร ในพื้นที่เพื่อเร่งดำเนินการช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง

การดำเนินงานด้านจิตอาสา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อมให้ นายชำนาญ ชื่นตา ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ นำแจกันดอกไม้ กระเช้าสิ่งของพระราชทาน ไปมอบแก่กำลังพล    ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน ๔ นาย ณ รพ.ค่ายวีรวัฒน์โยธิน  อ.เมืองสุรินทร์ จว.สุรินทร์

ติดตามความคืบหน้าการสร้างบ้าน ให้ อาสาสมัครทหารพราน ประวิทย์ งามแสน โดยกำลังพลจิตอาสาพระราชทาน ชุดช่าง ๔ นาย และประชาชน  จิตอาสา ตำบลชานุมาน รวมทั้งสิ้น ๑๕ นาย ร่วมการก่อสร้าง และได้มีการสร้างต่อเติมเพิ่มขนาดบ้านออกไป จำนวน ๒ ห้อง พร้อมมุขด้านหน้าเพื่อให้บ้านมีความกว้างขวางมากยิ่งขึ้น

กองทัพภาคที่ ๒ ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน ติดตามข้อมูลข่าวสารจากช่องทางอย่างเป็นทางการเท่านั้น อาทิ เช่น เพจ “กองทัพบก” เพจ “กองทัพภาคที่ ๒” หรือเพจประชาสัมพันธ์ของแต่ละจังหวัด ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงต่อสถานการณ์ในพื้นที่ และสามารถยืนยันข้อเท็จจริงได้อย่างถูกต้อง และทันเวลา