บุ๋ม ปนัดดา ลงพื้นที่พูดคุยชาวบ้าน พบปัญหาสินค้าพื้นบ้าน-เกษตรกรขายไม่ได้ เผย ยุบไม่ยุบ ศบ.ทก.ขึ้นอยู่กับ มติ สมช. แต่ไม่มีผล เพราะทำจิตอาสาทุกวันพร้อมตอบโต้ fake news มาลีเสมอ ลั่น! ทุ่นระเบิดใหม่ ถูกลอบวางใหม่ในแผ่นดินไทย

เผยแพร่เมื่อ ๑๔ ส.ค. ๒๕๖๘

ภาพประกอบข่าว

บ่ายวันนี้ (๑๔ ส.ค.๖๘) ดร.ปนัดดา วงศ์ผู้ดี หรือ “บุ๋ม ปนัดดา” โฆษกจิตอาสา ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) ลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ติดตามความเป็นอยู่ของชาวบ้านในพื้นที่ หลังจากอพยพกลับมาอยู่บ้าน พบส่วนใหญ่ชาวบ้านมีผลิตภัณฑ์สินค้า OTOP เป็น “ผ้าโฮล“ ลายดอกกันเกรา ซึ่งเป็นลายดั้งเดิมของชาวบ้านในพื้นที่ และเมื่อได้รับผลกระทบจากการเกิดความไม่สงบ ทำให้ขายของไม่ได้ ขาดรายได้ อีกทั้งชาวสวนที่ได้รับผลกระทบ จากการเก็บผลผลิตไม่ทันในระหว่างที่อพยพออกจากพื้นที่

โดย ดร.ปนัดดา เปิดเผยว่า หลังจากที่ลงพื้นที่มาวันนี้ ช่วงเช้าได้ช่วยสนับสนุนภารกิจทหาร ช่วงบ่ายจึงเดินมาพูดคุยกับชาวบ้าน ซึ่งพบว่ามีชาวบ้านได้รับผลกระทบหลายส่วน ทั้งเรื่องสภาพจิตใจ และเรื่องสินค้าของชุมชนอย่างผ้าโฮล ที่ไม่สามารถขายได้ หลังจากที่เกิดเหตุความไม่สงบ ชาวบ้านมีการอพยพไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว นอกจากนี้ยังมีในส่วนเกษตรกรที่เก็บผลผลิตไม่ทัน สุกคาต้น ได้รับผลกระทบกันอย่างต่อเนื่อง ตนจึงอยากประชาสัมพันธ์ไปยังอินฟลูเอนเซอร์ ประชาชนคนไทย ที่สนใจจะสนับสนุนผลิตภัณฑ์สินค้าของชาวบ้าน สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ เฟซบุ๊ค #surinbest จะมีชาวบ้านไปโพสต์ขาย จึงอยากให้คนไทยช่วยเหลือคนไทยด้วยกัน ช่วยกันต่อลมหายใจชาวบ้านในพื้นที่

ส่วนกระแสข่าวว่า จะมีการยุบ ศบ.ทก.นั้น ดร.บุ๋ม บอกว่า ในส่วนนี้ขึ้นอยู่กับมติการประชุม สมช. ว่าจะดำเนินการอย่างไรบ้าง ซึ่งตอนนี้ยังไม่ได้มีการยุบ แต่มีกรอบระยะเวลาในการตั้ง ศูนย์ฯ อยู่แล้ว ซึ่งต้องรอผลการประชุม สมช.อีกครั้ง ส่วนจะยุบ หรือไม่ยุบนั้น ไม่มีผลใดๆ เพราะตนเอง ในฐานะจิตอาสาโฆษก ก็จะยังคงดำเนินภารกิจต่อไป เพราะทำงานจิตอาสาทุกวัน โดยเฉพาะการตอบโต้ fake news จากฝั่งกัมพูชา อย่างเจ๊มาลี ไม่ว่าจะเป็นการกล่าวหาว่าตนเอง เป็นเมียน้อยบิ๊กเล็ก เอาคลิปไปตัดต่อต่างๆ และที่สำคัญ ตนเอง อยากบอกสังคมโลก ว่า ทุ่นระเบิดที่ทหารฝั่งไทยเหยียบนั้น เป็นทุ่นระเบิดที่มีการวางขึ้นใหม่ และถูกวางในพื้นดินของไทย ไม่มีเหตุผลที่ฝั่งไทยจะวางทุ่นระเบิดฝั่งตนเอง

 

ต่อมา โฆษกจิตอาสา ศบ.ทก. ได้เข้าพูดคุยกับนางเสมอ วงค์รัมย์ หรือ คุณยายเสมอ อายุ ๗๐ ปี ชาวบ้านในพื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ คุณยายซึ่งตกเป็นผู้เสียหายผ้าไหม ๕๖ ผืน มูลค่าเกือบ ๑ แสนบาท หล่นหายขณะอพยพ เมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ที่ผ่านมา

โดยคุณยายเสมอ ได้เล่าให้ “บุ๋ม ปนัดดา ” ฟังทั้งน้ำตาว่า ผ้าไหมดังกล่าวเป็นของสะสมที่ตัวเองกับครอบครัวเก็บสะสมมานานหลายสิบปี โดยผ้าไหมบางส่วนเป็นผ้าไหมที่ตัวเองทอขึ้นเอง ตั้งแต่ตอนอายุประมาณ ๔๐ ปี ที่สุขภาพยังแข็งแรงและสายตายังดีอยู่ ขณะที่บางส่วนก็เป็นผ้าไหม ซึ่งเป็นของรับไหว้ในงานแต่งงานของญาติพี่น้อง ที่นอกจากจะมีมูลค่าเป็นเงินแล้ว ยังมีคุณค่าทางจิตใจด้วย  ซึ่ง เมื่อวันเกิดเหตุ ๒๔ กรกฎาคม ที่ผ่านมา เกิดการสู้รบกับตามแนวชายแดน และมีคำสั่งให้ชาวบ้านอพยพ ตัวเองพร้อมกับครอบครัวรีบพากันขนของขึ้นรถกระบะของลูกสาว ออกไปที่ศูนย์อพยพในอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เมื่อไปถึงก็พบว่า กระสอบผ้าไหมได้หล่นหายไป ซึ่งพยายามย้อนดูตามเส้นทาง แต่ก็ไม่พบ แล้วก็ต้องรีบอพยพต่อไปที่ศูนย์อพยพในอำเภอเมืองสุรินทร์ด้วย พอรู้ว่าผ้าไหมทั้งหมดหายแน่นอน ตัวเองกับสามีแทบแทบช๊อคจนเป็นลม สามีทรุดจนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ๒ วัน

คุณยายเสมอ ร้องไห้ บอกกับ “บุ๋ม ปนัดดา” ว่า ตัวเองหมดเนื้อหมดตัวแล้ว เพราะผ้าไหมที่หายไป เป็นของสะสมที่จะแบ่งขายเพื่อนำเงินมาใช้จ่ายยามแก่เฒ่าเนื่องจากตัวเองกับสามีก็แก่ชราแล้ว ร่างกายก็ไม่ค่อยแข็งแรง อีกทั้ง ดวงตาข้างซ้ายของตัวเองก็มองไม่เห็น

       ด้าน “ บุ๋ม ปนัดดา ” ถึงกับน้ำตาคลอหลังฟังเรื่องราวจากคุณยายเสมอ ขณะที่ได้ตั้งรางวัล ๑ หมื่นบาท สำหรับผู้แจ้งเบาะแสเพื่อนำผ้าไหม ๕๖ ผืน มาคืนให้กับคุณยาย โดยสามารถแจ้งเบาะแสผ่านทางเพจมูลนิธิองค์กรทำดี หรือ แจ้งผ่านทางสื่อมวลชน ก็ได้ ซึ่งตัวเองเชื่อว่า ผ้าไหมทั้งหมดของคุณยายยังอยู่ และยังไม่ได้ถูกขายไป หากใครพบเห็นหรือเก็บไว้ได้ให้ช่วยแจ้งเบาะเเสทันที  เบื้องต้น “บุ๋ม ปนัดดา” ได้มอบเงินช่วยเหลือให้คุณยายเสมอ ๑ หมื่นบาท เพื่อให้นำไปใช้จ่ายในครอบครัวก่อน //