ตลอดช่วงบ่าย
จนถึงช่วงค่ำ ของการประชุมประชุมสภาผู้แทนราษฎร
เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙ ในวาระที่
๒ (ลงมติรายมาตรา) และวาระที่ ๓ (ลงมติร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ๒๕๖๙ ทั้งฉบับ)
ยังคงเป็นไปอย่างราบรื่น
•
ซัดงบฯคมนาคม สร้างตึกใหม่ แพงกว่า สตง. ๓ เท่า
โดยการอภิปรายในมาตรา
๑๕ ถือว่าเข้มข้น โดย นาย ศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กทม. พรรคประชาชน
ได้อภิปรายถึงงบก่อสร้างตึกกระทรวงคมนาคมแห่งใหม่ ว่า ใช้งบก่อสร้าง ๓,๘๓๒ ล้านบาท
เป็นงบผูกพัน ๓ ปี ตั้งแต่ปี ๒๕๖๙-๒๕๗๑ เป็นอาคาร ๒๒ชั้น พื้นที่ ๑๑๕,๑๙๖
ตารางเมตร บนที่ดิน ๑๘.๕ ไร่ ในตึกมีทั้งลิฟต์ และห้องอาหารวีไอพีให้รัฐมนตรี
แยกจากเจ้าหน้าที่ ถือว่าก่อสร้างใหญ่เกินความจำเป็น จึงอยากให้กลับไปออกแบบมาใหม่
แล้วกลับมาขอใหม่ในปีหน้า ด้วยราคาที่เหมาะสม เพื่อให้เป็นการใช้งบฯ
ที่เหมาะสมและคุ้มค่ามากที่สุด
•
งบฯ คมนาคม กว่า ๑.๘ แสนล้าน ผ่านสภาฯ
ทั้งนี้การอภิปรายในมาตรา
๑๕ ถือว่าใช้เวลาอภิปรายนาน ก่อนที่ประชุมสภาฯ จะมีมติมาตรา ๑๕
งบประมาณกระทรวงคมนาคม ที่ได้รับจัดสรรงบประมาณทั้งสิ้น ๑๘๕,๒๖๑ ล้านบาท
โดยเป็นการปรับลดงบประมาณลง ๗๙๕ ล้านบาท โดยที่ประชุมมีมติเห็นด้วย คะแนน ๒๔๘
เสียง ไม่เห็นด้วย ๑๓๓ เสียง งดออกเสียง ๒๓ เสียง และไม่ลงคะแนน ๔ เสียง
•
ฝ่ายค้านแขวะรัฐบาล “พึ่งจมูกคนอื่นหายใจ”
ขณะที่การอภิปราย
ได้เรียงไปตามรายมาตรา โดยมาตราที่ ๑๖
เป็นงบประมาณรายจ่ายของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและหน่วยงานในกำกับ , มาตรา ๑๗
งบประมาณรายจ่ายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานในกำกับ, มาตรา
๑๘ งบประมาณรายจ่ายของกระทรวงพลังงาน และมาตรา ๑๙ งบประมาณรายจ่ายของกระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานในกำกับ
โดยช่วงหนึ่งในช่วงการอภิปรายในมาตรา
๑๖ ได้เกิดการปะทะคารมกันเกิดขึ้น เมื่อนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒนสกุล
สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน
(วิปฝ่ายค้าน) ได้หารือต่อที่ประชุม ว่า
ฝ่ายค้านให้ความร่วมมือเป็นองค์ประชุมและแสดงตน ตลอด และขอให้ฝั่งรัฐบาลดูแลองค์ประชุมดีๆ
และที่บอกว่า ไม่ยืมจมูกฝ่ายค้านหายใจ แต่เมื่อถึงเวลา
อาจต้องอ้อนวอนให้พวกตนช่วยต่อลมหายใจ
ทำให้
นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้กล่าวตอบโต้ว่า
ขอบคุณฝ่ายค้านที่เป็นห่วงรัฐบาล แต่รัฐบาลมั่นคง รับผิดชอบองค์ประชุม
เพราะมีจมูกหายใจ ไม่จำเป็นต้องพึ่งจมูกใคร แต่สถานการณ์ไม่ได้ยืดเยื้อ
เมื่อประธานในที่ประชุม ได้ขอให้ทุกคนได้ร่วมมือกัน
เพื่อให้การประชุมอภิปรายลุล่วง.