การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๙ ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว ในวาระที่ ๒ และวาระที่ ๓ ซึ่งเป็นการประชุมต่อเนื่องเป็นวันที่ ๒ ต่อจากวานนี้ (๑๓ ส.ค.๖๘) โดยอภิปรายมาตรา ๑๔ งบประมาณรายจ่ายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานในกำกับ ซึ่ง สส.รัฐบาล และ สส. ฝ่ายค้าน ต่างอภิปรายขอปรับลดงบประมาณ
เนื่องจากหลายโครงการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสี่ยงล้มเหลวและสวนทางกับราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ เช่น โครงการศูนย์การเรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตฯ ไม่เห็นผลลัพธ์แม้จัดต่อเนื่องถึง ๑๐ ปี ปัญหาการพัฒนาพันธุ์ข้าว การแก้ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้งที่ไม่สามารถดำเนินการอย่างเป็นระบบและยั่งยืนได้ พร้อมเสนอแนะรัฐให้ความสำคัญกับการเพิ่มขีดความสามารถเกษตรกรและความสามารถในการแข่งขัน
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะ กรรมาธิการวิสามัญ ฯ เสียงข้างมาก ชี้แจงว่า โครงการปรับปรุงพันธุ์ข้าวฯ ของกรมการข้าว ทางคณะกรรมาธิการวิสามัญ ฯ ไม่ได้สอบถามลึกถึงจำนวนแม่พันธุ์ข้าว แต่กรมการข้าวยืนยันตามผลผลิตของการใช้จ่ายงบประมาณ เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่ต้องดำเนินการให้ครบถ้วนตามคำขอรับงบประมาณ
ส่วนโครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองนครศรีธรรมราชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดนครศรีธรรมราช ของกรมชลประทาน ได้พิจารณาเฉพาะตัวคำขอรับงบประมาณที่เสนอเข้ามา โดยย้ำว่า กลไกการตั้งงบประมาณไม่ได้อยู่ที่คณะกรรมาธิการฯ ซึ่งขณะนี้ มีเจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับฟังอยู่มั่นใจว่าจะมีวิธีการดำเนินการให้แล้วเสร็จต่อไป
ข่าว วาสนา เงินทูล สวท.