สมศักดิ์ ใช้งบฉุกเฉินในการซ่อมแซมโรงพยาบาลที่ได้รับความเสียหายจากเหตุประทะชายแดนไทยกัมพูชา ส่วนกรณีค่าตอบแทน อสม. ที่ สส. รักชนก ระบุถึงการจ่ายค่าตอบแทนให้กับ อสม. นั้น นายสมศักดิ์ ระบุไม่ได้เกิดขึ้นในสมัยของตน

เผยแพร่เมื่อ ๑๔ ส.ค. ๒๕๖๘

ภาพประกอบข่าว

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สธ. กล่าวถึงการดำเนินงานด้านสาธารณสุขในพื้นที่ ชายแดนไทย กัมพูชา ซึ่งในขณะนี้ประชาชนเริ่มทยอยกลับบ้านเรือนบ้างแล้วโดย กระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับทราบในกรณีการกลับเข้าบ้านเรือนให้ดำเนินการสำรวจความเสียหายก่อน รวมไปถึงบริเวณโดยรอบข้างเคียงว่ามีสิ่งอื่นใดแปลกปลอมหรือไม่เช่นบริเวณรอบข้างมีดินโคลนหลุมลักษณะมีสิ่งต่อไปหากพบต้องให้แจ้งประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองท้องถิ่นในบริเวณใกล้เคียงได้ทันที   


ส่วนของกระทรวงสาธารณสุขที่ผ่านมาตนลงพื้นที่อำเภอภูสิงห์จังหวัดศรีสะเกษจึงมีการจัดทีมเอ็มแคท ดูแลและประเมินสภาพจิตใจของประชาชนรวมทั้งการทำกิจกรรมต่างๆการคัดกรองประเมินความเสี่ยงสภาพจิตใจซึ่งในขณะนี้มีการประเมินจิตใจประชาชนใน ๔ จังหวัดแล้วประมาณ ๕๐๐๐ คน  / กลุ่มเสี่ยงฆ่าตัวตาย มีความเครียดสูง ประมาณ ๔๙๙ คน 


ส่วนการฟื้นฟู ซ่อมโรงพยาบาลที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วน ในเบื้องต้นจะต้อง ใช้งบฉุกเฉินในการซ่อมก่อน ส่วนกลไก การเรียกเก็บเงินชดเชยความเสียหายจากประเทศกัมพูชา ต้องประสานกระทรวงต่างประเทศ   และรัฐบาล  ดำเนินการร่วมด้วย


ส่วนกรณีที่ สส.รักชนก   มีการพูดถึงการทำงานของ อสม. ที่เรียกว่ากระทรวงสาธารณสุขมีการมอบค่าตอบแทนให้


นายสมศักดิ์ กล่าวว่า จากที่ได้ฟังมองว่าทาง สส.รักชนก กล่าวชื่นชมการทำงานของ อสม.ว่าทำงานดี  แต่มีหน่วยงานอื่นจะนำไปเป็นตัวอย่าง  ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการดีอยู่แล้วหากหน่วยงานอื่นจะดำเนินการตามก็แล้วแต่กระทรวงนั้น ในขณะนี้สิ่งที่ผมเข้ามาดำเนินการคือการสร้างความมั่นคงให้กับ อสม.โดยการผลักดันข้อกฎหมาย มี ๕ หมวด ที่หนึ่งในนั้นมีการระบุเงินค่าป่วยการ ซึ่งเป็นเงินเพื่อการดูแลกรณีค่ารักษา ค่าห้องพิเศษ  ค่าฌาปนกิจ   และรวมถึงเงินบัญชีนอกงบประมาณซึ่งในส่วนนี้ได้อธิบายเพิ่มเติมว่างบประมาณหนึ่งปีประมาณ ๘ หมื่นล้าน บาท ซึ่งถูกจัดสรรใช้สำหรับค่ายาค่าหมอถ้าแต่ละปีสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายลงได้ประมาณ ๑-๒ หมื่นล้านบาท ก็ถือว่า ควรมีรางวัลให้กับบุคลากรทางการแพทย์รวมถึง อสม.ด้วย ที่ดำเนินงานช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย ด้านการรักษาลงได้ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ทำหนังสือเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีไปแล้ว


อย่างไรก็ตามการผลักดันค่าตอบแทนของ อสม. ไม่ได้เริ่มในสมัยของตนแต่ที่ตนเข้ามาทำคือการผลักดันให้ดีขึ้นจาก ๕๐๐ เป็น๑๕๐๐ บาทและปัจจุบันอยู่ที่ ๒๐๐๐ บาท  แสดงว่าเมื่อคนอื่นเห็นว่าเราทำแล้วดีขึ้นก็คงจะพูดกันไปจะเลิกก็ไม่ได้ มันมีกฏหมายอยู่แล้ว


ข่าว nbt