เเม่ทัพภาคที่๒ เตรียมถก RBC ไทย-กัมพูชา ปลาย ส.ค. เสนอแก้ปมทุ่นระเบิด และย้ำทหารไทยไม่ถอนกำลังจาก ๑๑ จุดที่ยึดได้ข่วงปะทะ

เผยแพร่เมื่อ ๑๔ ส.ค. ๒๕๖๘

ภาพประกอบข่าว

 พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ ๒ ระบุถึงสถานการณ์ ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า  ทั้งสองฝ่ายวางกำลังปกติต่างฝ่ายต่างอยู่ ส่วนกรณีกัมพูชาติดตั้งตาข่ายกั้นโดรน  เป็นเรื่องปกติของทั้งสองฝ่ายที่ต้องใช้มาตรการป้องกัน ซึ่งสงครามสมัยใหม่มีการใช้โดรนมากขึ้น และไม่รู้ว่าจะมาจากทิศทางใด   ทั้งนี้ต้องขอบคุณประชาชนที่ร่วมบริจาคตาข่าย ให้กองทัพภาคที่ ๒ นำมาใช้ป้องกันโดรน ส่วนการบริจาคเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับประชาชน หากประชาชนมีความประสงค์ ก็ยินดีนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป

 ทั้งนี้นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ไม่ได้โทรศัพท์มาพูดคุยหรือสอบถามในเรื่องที่กองทัพรับบริจาคสิ่งของ โดยเฉพาะลวดหนาม แต่เชื่อว่าไม่มีปัญหา ซึ่งขณะนี้ลวดหนามหีบเพลงมีเพียงพอแล้ว ช่วงที่ผ่านมายอมรับว่ามีความจำเป็นต้องใช้ลวดหนาม เนื่องจากทหารควบคุมพื้นที่ได้จำนวนมาก จึงต้องวางลวดหนามเพื่อลดการลาดตระเวน

ยืนยันว่ากองทัพกับรัฐบาลไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ซึ่งทหารก็ทำหน้าที่ป้องกันชายแดนส่วนรัฐบาลก็ทำหน้าที่ของรัฐบาล

แม่ทัพภาคที่ ๒ ยังระบุถึงความคืบหน้าการประชุมคณะกรรมการชายแดนระดับภูมิภาคไทยกัมพูชาหรือ RBC ว่า ฝ่ายกัมพูชาตอบรับแล้วโดยจะมีการประชุมในช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ ระหว่างนี้ก็เป็นหน้าที่ของคณะเลขานุการ RBC ของทั้งสองฝ่ายเตรียมประเด็นการพูดคุย โดยจะใช้สถานที่ประชุมบริเวณแนวชายแดนในฝั่งไทยเพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย

ส่วนการหารือในที่ประชุม RBC จะบรรลุข้อตกลงที่สืบเนื่องจากการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชาหรือ GBC โดยเฉพาะเรื่องการหยุดยิงได้มากน้อยแค่ไหน อยู่ที่ผู้นำของทางกัมพูชา เพราะระดับแม่ทัพภาคของทางกัมพูชาก็ต้องรอการยืนยันจากผู้บังคับบัญชาอีกชั้นหนึ่ง

ทั้งนี้เรื่องทุ่นระเบิด เป็นหัวข้อหนึ่งที่จะนำเข้า หารือในที่ประชุม RBC เพราะฝ่ายกัมพูชาผิดเงื่อนไข ตามอนุสัญญาออตอวา ด้วยการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งกัมพูชาก็เป็นสมาชิกด้วย

แม้ที่ผ่านมากัมพูชาไม่ยอมรับเรื่องทุ่นระเบิด  แต่ทางฝ่ายไทยก็จะประท้วงและสื่อสารไปในทางสากลให้รับทราบโดยจะผลักดันให้องค์การสหประชาชาติ หรือ UN และศูนย์ทุ่นระเบิดสากล ร่วมกันแก้ไขในเรื่องนี้

แม่ทัพภาคที่ ๒ ยังระบุถึงท่าทีของกัมพูชาหลังไทยได้สื่อสารเรื่องการใช้สิทธิ์ป้องกันตนเอง หากมีความจำเป็นว่า ทางกัมพูชาก็มีการเตรียมพร้อมเป็นปกติ ทั้งนี้เชื่อว่า ทางกัมพูชาจะไม่ลดเรื่องของการใช้ทุ่นระเบิดสังหาร แต่ทหารไทยก็จำเป็นต้องลาดตระเวนในบางจุดเพราะหากไม่เข้าไปลาดตระเวนก็อาจจะถูกยึดคืน หรือถูกข้าศึกรุกเข้ามา ทั้งนี้ต้องใช้ความรอบคอบมาดที่สุด รวมทั้งใช้เครื่องจักร และรถกวาดทุ่นระเบิด แต่บางจุดรถก็อาจจะเข้าไม่ได้ก็ต้องใช้วิธีอื่น เช่น โดรน

 

ข่าว nbt