นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมมัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีพรรคภูมิใจไทยเรียกร้องให้นายภูมิธรรม ในฐานะประธานคณะกรรมการคดีพิเศษติดตามตรวจสอบคดีบริษัทครอบครัว น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หลังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ รับเรื่องสอบสวนเป็นคดีพิเศษ การขุดบ่อน้ำรุกที่สาธารณะ จ.อุบลราชธานี หลังเอาแต่เร่งรัดตรวจสอบคดีที่ดินเขากระโดง และฮั้ว สว. ว่า ตนคิดว่าดีเอสไอคงทำทุกเรื่อง แต่ยอมรับว่า เรื่องฮั้ว สว.เป็นเรื่องใหญ่ ถ้าเป็นจริงตามนั้นถือเป็นการทำลายระบอบกฎเกณฑ์ ระบอบประชาธิปไตย ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่สุด สามารถมองได้ เป็นเรื่องที่สาธาณชนให้ความสนใจ ขณะที่เรื่องเขากระโดงเป็นเรื่องใหญ่อีกเรื่องที่สำคัญ และเป็นการปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกาที่ตัดสินไปแล้ว ในเรื่องที่ดินประมาณ ๕ พันกว่าไร่ที่คั่งค้างมานาน และเรื่องนี้ก็ช้ามาเป็น ๑๐ ปีแล้ว จะบอกว่า เร่งรีบไม่ได้ แต่เป็นเรื่องที่ต้องสางให้เกิดความชัดเจน
ส่วนที่มีการอ้างว่า ๖ ปีแล้ว แต่ดีเอสไอยังไม่สั่งฟ้องคดีของ น.ส.สุดาวรรณ นายภูมิธรรม ย้อนถามว่า "เอา ๖ ปีมาเปรียบเทียบกว่า ๑๐ กว่าปี ต้องดูความใหญ่นะครับ แต่ไม่เป็นไรมีสิทธิที่จะถามได้ แต่เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ คนทั้งประเทศเขาสนใจเรื่องเขากระโดงมากกว่า ส่วนเรื่องอื่นก็ว่าไปตามกระบวนการกฎหมาย และเรื่องเขากระโดงขอให้เกิดความชัดเจน ถ้าคิดว่ามีปัญหาก็ทำให้ชัดเจน"
ทั้งนี้ การเพิกถอนที่ดินเขากระโดงต้องรอให้อธิบดีกรมที่ดินคนใหม่เข้ามาเซ็น หรือให้คนรักษาการทำก่อนได้หรือไม่ หลังประกาศจะเพิกถอนตั้งแต่วันที่ ๒ ส.ค.ที่ผ่านมา นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนตอบหลายครั้งแล้ว รอให้มีการโปรดเกล้าฯ อธิบดีกรมที่ดินคนใหม่เข้ามาจะทำหน้าที่ทันที
ข่าว โศรดา เข็มเจริญ nbt