นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงการดำเนินการล่าสุดของกระทรวงการต่างประเทศ ภายหลังเหตุการณ์ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ ๙ และ ๑๒ สิงหาคมที่ผ่านมา ว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้สัมภาษณ์ชี้แจงมาตรการตอบโต้เพิ่มเติม ซึ่งกระทรวงได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มเกิดเหตุ
ภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าว กระทรวงการต่างประเทศได้ส่งหนังสือประท้วงไปยังกัมพูชาอีกครั้ง พร้อมใช้กลไกในกรอบพหุภาคี โดยเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทย ณ นครเจนีวา ได้มีหนังสือถึงประธานการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ครั้งที่ ๒๒ เพื่อร้องเรียนการละเมิดพันธกรณีของกัมพูชา ขณะเดียวกัน เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทย ณ นครนิวยอร์ก กำลังส่งหนังสือถึงเลขาธิการสหประชาชาติ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว
นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตทั้งสองยังได้เข้าพบประธานการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ครั้งที่ ๒๒ เลขาธิการสหประชาชาติ ผู้แทนระดับสูงของรัฐภาคี และองค์กรภาคสังคมที่เกี่ยวข้อง เพื่อขอให้มีการดำเนินการตามขั้นตอนของอนุสัญญา ต่อการละเมิดพันธกรณีของกัมพูชา รวมทั้งได้ชี้แจงข้อมูลต่อคณะกรรมการการปฏิบัติตามอนุสัญญา ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาตามอำนาจหน้าที่
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยังได้หารือทางโทรศัพท์กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศประธานอนุสัญญาฯ ปี ๒๕๖๘ เพื่อขอให้ใช้กลไกในกรอบอนุสัญญาออตตาวา ดำเนินการกับกัมพูชา รวมทั้งได้พูดคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของมาเลเซียและสิงคโปร์ เพื่อขอให้ใช้กลไกอาเซียน กดดันให้กัมพูชาร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด
นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศยังมีแผนร่วมกับกระทรวงกลาโหม เชิญคณะทูตประเทศผู้บริจาคและองค์กรระหว่างประเทศด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด มารับฟังข้อมูลเกี่ยวกับการละเมิดอนุสัญญาและท่าทีของกัมพูชาที่ปฏิเสธความร่วมมือกับฝ่ายไทย ในวันศุกร์ที่ ๑๕ สิงหาคม พร้อมเรียกร้องให้พิจารณาทบทวนการให้ความช่วยเหลือต่อกัมพูชา และในวันที่ ๑๖ สิงหาคม จะนำผู้แทนประเทศและองค์กรดังกล่าวลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทุ่นระเบิด
ข่าว ปุริมพัฒน์ ศรกาญจน์ สวท.