ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์ปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ตั้งแต่วันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๘ เป็นวงกว้าง ทำให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิต ทรัพย์สินของประชาชนและทรัพย์สินของทางราชการเป็นจำนวนมาก นั้น
ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ได้แถลงข่าวการเจรจาระหว่างไทยกับกัมพูชา โดยมีสาระสำคัญของข้อตกลงในส่วนของพลเรือน ได้แก่
๑.ยุติการใช้อาวุธทุกประเภท การโจมตีต่อพลเรือน เป้าหมายพลเรือน และเป้าหมายทางทหาร ในทุกพื้นที่และทุกกรณี
๒.ไม่ใช้กำลังต่อพลเรือน หรือเป้าหมายทางพลเรือนในทุกทุกกรณี
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุรินทร์พิจารณาแล้ว เนื่องจากได้มีข้อตกลงดังกล่าวทำให้สถานการณ์คลี่คลายลง และทำให้เกิดความปลอดภัยต่อประชาชนในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ จึงขอให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธาธารณภัยอำเภอ และกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาสาธาธารณภัย เทศบาลเมืองสุรินทร์ พิจารณาดำเนินการปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่รับผิดชอบ และส่งมอบคืนพื้นพื้นที่ให้แก่ ส่วนราชการ หรือเจ้าของสถานที่ที่ได้ขอใช้เป็นที่ตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวต่อไป
ทั้งนี้ ขอให้ส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอและกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลเมืองสุรินทร์ ยึดหลักปฏิบัฏิบัติตาม "แผนการอพยพประชาชน กรณีภัยทางอากาศ จังหวัดสุรินทร์ ปี ๒๕๖๘ และแผนรักษาความมั่นคงตามแนวชายแดนและพิทักษ์พื้นที่เขตหลังจังหวัดสุรินทร์" โดยเคร่งครัด
ประกาศ ณ วันที่ ๑๐ เดือน สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๘
นายชำนาญ ชื่นตา
ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์
ผู้อำนวยการจังหวัด