ข้อชี้แจงทางกฎหมาย: “สิทธิในที่ดินของประชาชนยังคงชอบด้วยกฎหมาย”

🕓 เผยแพร่เมื่อ ๑๐ ส.ค. ๒๕๖๘

หมวดหมู่ข่าว: politics

ภาพข่าว นายชนินทร์ แก่นหิรัญ ทนายความ ที่เป็นตัวแทนกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบได้ ชี้แจงต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน ว่า ข้อพิพาทสิทธิในที่ดินบริเวณ “เขากระโดง” แม้จะมีคำพิพากษาของศาลฎีกาและศาลอุทธรณ์บางคดีที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นำมาอ้าง แต่ภายใต้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๔๕ วรรคสอง คำพิพากษาดังกล่าวผูกพันเฉพาะคู่ความและที่ดินพิพาทในคดีเท่านั้น ไม่อาจยกขึ้นยันกับราษฎรผู้ถือเอกสารสิทธิตามกฎหมายในที่ดินแปลงอื่นซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าวและได้รับประโยชน์จากข้อสันนิษฐานตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๓๗๓ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๒๗ และประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา ๒ และมาตรา ๓ อีกทั้งยังได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. ๒๕๖๐ มาตรา ๓๗ อีกด้วย ทั้งนี้ จนถึงปัจจุบันไม่ปรากฏว่ามีพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตและจัดซื้อที่ดิน พร้อมแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาประกาศในราชกิจจานุเบกษา รับรองให้ รฟท. ได้รับพระราชทานโปรดเกล้าฯ เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์บนที่ดินบริเวณเขากระโดงตามพระราชบัญญัติจัดวางการรถไฟและทางหลวง พ.ศ. ๒๔๖๔ หรือกฎหมายอื่นใด ดังนั้น ที่ดินพิพาทจึงไม่ตกเป็น “ที่ดินรถไฟ” ตามนิยามในพระราชบัญญัติดังกล่าว ยิ่งไปกว่านั้น แผนที่สำรวจ (Exploitation Plan) ดังกล่าวจัดทำขึ้นเพื่อรองรับการขนย้ายหินบริเวณเขากระโดงชั่วคราว โดยอาศัยพระราชบัญญัติจัดวางการรถไฟและทางหลวง พ.ศ. ๒๔๖๔ มาตรา ๔๕ จึงไม่ใช่ทางรถไฟเพื่อใช้ในการเดินรถตามมาตรา ๓ (๓) ของพระราชบัญญัติเดียวกัน และไม่ใช่แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาที่ผ่านกระบวนการพระราชทานโปรดเกล้าฯ ตามกฎหมาย ข้อเท็จจริงข้างต้นยืนยันอย่างชัดเจนว่า ราษฎรผู้ถือครองเอกสารสิทธิโดยสุจริตยังคงมีสิทธิครอบครองและใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณเขากระโดงโดยชอบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ทุกประการและได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศไทย อีกทั้ง ยังมีสิทธิในการต่อสู้และพิสูจน์ถึงความไม่ชอบของแนวเขตที่ดินที่ รฟท. กล่าวอ้าง ภาพข่าว หากนายภูมิธรรมฯ อธิบดีกรมที่ดิน และหรือหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องยังคงดำเนินการเพิกถอนโฉนดโดยยึดถือแผนที่หรือข้อมูลเท็จของ รฟท. เพื่อสนองนโยบายทางการเมือง อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายอย่างร้ายแรง ราษฎรทุกรายผู้ได้รับผลกระทบจะยืนหยัดปกป้องสิทธิของตนอย่างถึงที่สุด ไม่ว่าจะฟ้องเพิกถอนคำสั่งทางปกครองและเรียกค่าเสียหาย หรือดำเนินคดีอาญาฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เบิกความเท็จ ปลอมแปลงเอกสารราชการ และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้กระทำต้องรับผิดจนกว่าคดีจะถึงที่สุด จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบโดยทั่วกัน ราษฎรผู้ได้รับผลกระทบกรณีเขากระโดง ภาพข่าว ภาพข่าว

✍️ สำนักข่าวไทเกอร์นิวส์ รายงาน

🗞️ สำนักข่าวไทเกอร์นิวส์ - TIGERNEWSREPORT.COM เว็บไซต์ข่าวภูมิภาค ข่าวด่วนทั่วไทย รายงานโดยทีมข่าวประจำภูมิภาค