ที่ ห้องทองจันทร์ หงศ์ลดารมภ์ อาคารเรียนรวมและหอสมุด คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ผศ.ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เป็นประธานเปิดงานประชุมวิชาการประจำปี ครั้งที่ ๔๐ ภายใต้หัวข้อ “Medical Glocalization: Moving toward Sustainable Development Goals (SDGs)” เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางการแพทย์ระดับภูมิภาคและนานาชาติ พร้อมมุ่งสู่การพัฒนาสุขภาพอย่างยั่งยืน ภายในงานมีนักวิชาการ แพทย์ พยาบาล บุคลากรด้านสาธารณสุข และนักศึกษา
แพทย์เข้าร่วมจำนวนมาก พร้อมกิจกรรมสำคัญ อาทิ การบรรยายพิเศษ การเสวนาวิชาการ และการปาฐกถาเกียรติยศ “ศ.นพ.ธาดา ยิบอินซอย” โดยได้รับเกียรติจาก ศ.นพ.
ประเสริฐ เอื้อวรากุล อาจารย์ประจำภาควิชาจุลชีววิทยา คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นองค์ปาฐก
หนึ่งในกิจกรรมที่สำคัญของงานประชุมวิชาการประจำปี
คณะแพทยศาสตร์ คือ การมอบรางวัลแพทย์ตัวอย่างภาคใต้ที่จัดขึ้น เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติแพทย์ผู้อุทิศตน เป็นขวัญกำลังใจให้แพทย์ปฏิบัติงานในพื้นที่ภาคใต้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังส่งเสริมการเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เพื่อนแพทย์และนักศึกษาแพทย์ในการสร้างสังคมคุณธรรม รวมถึงสร้างแรงจูงใจให้แพทย์รุ่นใหม่มีทัศนคติที่ดีต่อการปฏิบัติงานในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งในปีนี้ แพทย์ที่ได้รับการคัดเลือกให้เข้ารับรางวัลแพทย์ตัวอย่าง คือ นายแพทย์รุซตา สาและ แพทย์เฉพาะทาง สาขาศัลยกรรมทั่วไป โรงพยาบาลปัตตานี และเป็นศิษย์เก่า
คณะแพทยศาสตร์ ม.อ. รุ่นที่ ๑๖ ซึ่งเป็นบุคคลที่มีผลงานโดดเด่นทั้งด้านวิชาการ การบริหาร และการทำงานเพื่อสังคม
นพ.รุซตาเป็นชาวปัตตานีตั้งใจกลับมารับใช้บ้านเกิดหลังจบการศึกษาด้านศัลยศาสตร์ และได้พัฒนาระบบสาธารณสุขในพื้นที่ชายแดนใต้อย่างต่อเนื่อง ทั้งการยกระดับบริการโรคหัวใจ การเปิดศูนย์ MRI และ semi ICU ลดการส่งต่อผู้ป่วย รวมถึงโครงการดูแลพระสงฆ์และระบบการแพทย์ฉุกเฉินในพื้นที่ความไม่สงบ การพัฒนาระบบจัดยากึ่งอัตโนมัติ ลดเวลารอรับยาจากกว่า ๑ ชั่วโมงครึ่ง เหลือเพียง ๑๕ นาทีต่อคน และการผลักดันโครงการ Rational Lab Use ลดค่าใช้จ่ายการตรวจทางห้องปฏิบัติการกว่า ๑.๒ ล้านบาทต่อปี
ตลอดการทำงาน นพ.รุซตายึดหลัก “ดูแลผู้ป่วยเสมือน
ญาติ” และเชื่อว่าความสำเร็จเกิดจากความร่วมมือของทั้งองค์กร โดยเน้นการสร้างทีมงานที่เข้มแข็งและทำงานร่วมกันอย่างมีเป้าหมายเดียวกัน พร้อมย้ำว่าทุกคนในพื้นที่ควรได้รับการรักษาอย่างเท่าเทียม นอกจากนี้ นพ.รุซตายังเป็นผู้นำที่เข้าใจความแตกต่างทางศาสนาและวัฒนธรรมในพื้นที่พหุวัฒนธรรม และได้รับความเคารพจากเพื่อนร่วมงานและชุมชนอีกด้วย
การมอบรางวัลในครั้งนี้ นับเป็นการยกย่องเกียรติคุณของแพทย์ผู้ทุ่มเททำงานเพื่อสังคม และสร้างแรงบันดาลใจแก่บุคลากรทางการแพทย์รุ่นใหม่ให้มุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่เพื่อประชาชนอย่างแท้จริง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในภาคใต้ให้ดียิ่งขึ้น
สำหรับคุณสมบัติผู้ได้รับรางวัลดังกล่าวต้องทำงานในพื้นที่
ภาคใต้อย่างน้อย ๕ ปี ให้บริการอย่างมีคุณภาพ เสียสละ อุทิศตน มีคุณธรรม จริยธรรม และผลงานโดดเด่นเป็นประโยชน์ต่อวิชาชีพ ซึ่งนายแพทย์รุซตาถือเป็นแบบอย่างที่ดีของแพทย์ที่ครบถ้วนทั้งด้านวิชาการและคุณธรรม