"พาณิชย์พึ่งได้" จตุพร ลงยะลา ติดตามสถานการณ์ทุเรียน เตรียมลดต้นทุน เพิ่มกำไรแก่เกษตรกร

เผยแพร่เมื่อ ๑๖ ส.ค. ๒๕๖๘

ภาพประกอบข่าว

“พาณิชย์พึ่งได้” จตุพร ลงยะลา ติดตามสถานการณ์ทุเรียน เตรียมลดต้นทุน เพิ่มกำไรแก่เกษตรกร

        วันนี้ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๘ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยนายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน ผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ และกรมที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ที่จุดรับซื้อทุเรียนเอกชน ล้งทุเรียนโกซาน (นายประเสริฐ คณานุรักษ์) ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา เพื่อติดตามสถานการณ์ทุเรียนและผลไม้ในพื้นที่ รวมทั้ง ช่องทางการเชื่อมโยงตลาด ทั้งใน และต่างประเทศ โดยมีนายอับดุลอายี สาแม็ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดยะลา เขต ๓ พรรคประชาชาติ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. นายอำนาจ ชูทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ส่วนราชการ และเกษตรกรในพื้นที่ ร่วมให้การต้อนรับ

        นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ เป็นการประสานงานและทำงานร่วมกันของ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงมหาดไทย และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เพื่อติดตามสถานการณ์ทุเรียนใน จ.สงขลา และ จ.ยะลา ปัจจุบันราคาทุเรียนในพื้นที่มีการขยับตัวสูงขึ้น ถือเป็นข่าวดีสำหรับเกษตรกร โดยวันนี้ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมล้งรับซื้อ ซึ่งพบว่ามีการจัดการที่มีคุณภาพและเป็นระบบ เกษตรกรสามารถนำทุเรียนรุ่นแรกออกจำหน่ายได้ในราคาที่น่าพอใจ พร้อมทั้งขอบคุณผู้ประกอบการที่ให้ความจริงใจ ดูแลเกษตรกร และรับฟังข้อเสนอแนะอย่างใกล้ชิด “ดีใจแทนพี่น้องเกษตรกรที่มีล้งที่ดี มีคุณภาพ และเป็นที่ปรึกษาได้ พาณิชย์ต้องพึ่งได้ ต้องเป็นที่พึ่งของประชาชน เกษตรกรกับล้งต้องช่วยกัน ไทยต้องช่วยไทย” นายจตุพร กล่าว

        ทั้งนี้ จังหวัดยะลาเป็นพื้นที่ปลูกผลไม้ใหญ่แห่งหนึ่งของภาคใต้ตอนล่าง และการมีระบบรับซื้อที่เป็นธรรม ทำให้เกษตรกรในพื้นที่มีความมั่นใจและไม่ต้องเดินทางไกลไปขายที่อื่น โดยวันนี้ได้มาเยี่ยมล้งโกซาน ที่ดำเนินการโดย คุณประเสริฐ คณานุรักษ์ ผู้ประกอบการไทยที่รับซื้อผลผลิตทุเรียนเพื่อการส่งออกทั้งในรูปแบบผลสดและการแกะเนื้อ โดยมีฐานดำเนินการหลักในอำเภอธารโตและอำเภอเบตง จังหวัดยะลา คาดการณ์ว่าในปีนี้จะสามารถรับซื้อทุเรียนได้ไม่น้อยกว่า ๗,๐๐๐ ตัน มีกำลังการรับซื้อในแต่ละวันสูงถึง ๑๒๐ ตัน ถือเป็นแรงหนุนสำคัญที่สร้างเสถียรภาพด้านการตลาดและความมั่นใจให้แก่เกษตรกร

        นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ยังได้กล่าวถึงการดำเนินโครงการ “ธงเขียว” ว่า ได้พบกับพี่น้องเกษตรกรที่มาขายทุเรียน ก็ได้ชี้แจงไปว่ากระทรวงพาณิชย์พร้อมช่วยเหลือพี่น้องโดยการลดภาระต้นทุนการผลิตไม่ว่าจะเป็นปุ๋ย ยาฆ่าแมลง และปัจจัยการผลิตต่าง ๆ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์ หน่วยงานท้องถิ่น และกลุ่มเกษตรกร โดยย้ำว่ากระทรวงพาณิชย์จะทำทุกวิถีทางเพื่อลดภาระให้กับพี่น้องเกษตรกร และสร้างความมั่นใจว่าการค้าขายในพื้นที่จะเป็นธรรมและยั่งยืน

        สำหรับจุดแข็งของกลุ่มเกษตรกรในอำเภอเบตง คือการสร้างเครือข่ายกับเกษตรกรในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยได้เริ่มนำร่องควบคุมคุณภาพการผลิตใน ๓ ตำบล ได้แก่ ตำบลแม่หวาด อ.ธารโต ตำบลอัยเยอร์เวง และเบตง ซึ่งมีเครือข่ายเกษตรกรมากกว่า ๓๐๐ ราย มีการจัดระบบเก็บเกี่ยวที่ช่วยทุ่นแรงและลดความเสียหายของผลผลิต รวมถึงการใช้เครื่องมือเฉพาะรูปแบบใหม่เพื่อรักษาคุณภาพของทุเรียน อีกทั้งยังมีแผงทุเรียนในพื้นที่ที่อำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศสามารถเข้ามาตรวจสอบกระบวนการผลิตและคุณภาพได้โดยตรง ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความเข้มแข็งของเครือข่ายผู้ซื้อ–ผู้ขาย ที่จะช่วยผลักดันทุเรียนเบตงสู่ตลาดในและต่างประเทศอย่างมั่นคง

        ด้าน นายประเสริฐ คณานุรักษ์ เจ้าของล้งทุเรียนโกซาน กล่าวถึงสถานการณ์ทุเรียนในพื้นที่อำเภอเบตงในขณะนี้ว่า ได้มีการสร้างความเข้าใจแก่เกษตรกรในพื้นที่ในการตัดทุเรียนแก่เพื่อสร้างมูลค่า มุ่งเป็นจุดรับซื้อทุเรียนที่ใหญ่ที่สุดและดีที่สุด โดยล้งทุเรียนโกซาน มีการรับซื้อทุเรียนจากเกษตรกรอำเภอเบตง ในราคาที่สูงกว่าท้องตลาด ส่งต่อไปยังบริษัทโชติวัฒน์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัทซันไชน์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จันทบุรี ซึ่งรับซื้อทุเรียนนำไปแกะรอขาย เน้นส่งออกโซนยุโรป จึงทำให้สามารถทำราคาได้