นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ผลไม้ในภาคใต้ ที่บริษัทห้องเย็นโชติวัฒน์หาดใหญ่ จำกัด (มหาชน) อำเภอนาหม่อม จังหวัดสงขลา โดยเน้นตรวจการรับซื้อและการแปรรูปทุเรียน ซึ่งอยู่ในช่วงปลายฤดูเก็บเกี่ยว เพื่อดูแนวทางแก้ปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำและยกระดับรายได้เกษตรกร
รมว.พาณิชย์กล่าวว่า การใช้เทคโนโลยีห้องเย็นและการแช่แข็งทุเรียน (Frozen Durian) ช่วยรักษาคุณภาพและยืดอายุผลผลิต ทำให้ทุเรียนที่ราคาตกต่ำในช่วงปลายฤดูสามารถนำมาเก็บรักษาและส่งออกได้ ปัจจุบันมีการแปรรูปแล้วกว่า ๕,๐๐๐ ตัน และคาดว่าจะถึง ๑๐,๐๐๐ ตันภายในกลางเดือนกันยายน ซึ่งถือเป็นการสร้างสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน
นอกจากนี้ ยังถือเป็นการกระจายผลผลิตจากหลายจังหวัด ทั้งสงขลา ยะลา ชุมพร และสุราษฎร์ธานี โดยศูนย์รับซื้อในพื้นที่จะส่งทุเรียนเข้าห้องเย็นกว่า ๗๐% ของปริมาณทั้งหมด เพื่อเข้าสู่กระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน สามารถส่งออกไปยังตลาดหลัก เช่น จีน ไต้หวัน เกาหลี และญี่ปุ่น
ด้านนายชัยวัชร์ เหล่าเทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการบริษัทห้องเย็นโชติวัฒน์หาดใหญ่ฯ ระบุว่า บริษัทมีกำลังการผลิตสูงสุดกว่า ๑๐๐ ตันต่อวัน และตั้งเป้ารับซื้อทุเรียนคุณภาพรวมกว่า ๕,๐๐๐ ตันในปี ๒๕๖๘ โดยรับซื้อในราคากิโลกรัมละ ๕๐–๑๑๐ บาท พร้อมพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ เช่น ไอศกรีม ขนมพร้อมทาน และพิซซ่าหน้าทุเรียน เพื่อเพิ่มมูลค่าและขยายตลาดสู่ผู้บริโภคต่างประเทศ
รมว.พาณิชย์ย้ำว่า นโยบายกระทรวงจะมุ่งทั้งการผลักดันการส่งออกผลไม้ไทย และการลดต้นทุนการผลิตของเกษตรกร เช่น โครงการธงเขียว ปุ๋ย และยารักษาพืช พร้อมรณรงค์ “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย” เพื่อให้ประชาชนสนับสนุนสินค้าเกษตรไทย อันจะช่วยเพิ่มรายได้และความมั่นคงแก่เกษตรกรในระยะยาว