จ.สุพรรณบุรี จัดกิจกรรม "สุขภาพดี วิถีชุมชน ยลอู่ทอง” ณ หมู่บ้านทวารวดีศรีอู่ทอง (เรือสำเภาเมืองโบราณอู่ทอง)

เผยแพร่เมื่อ ๑๔ ส.ค. ๒๕๖๘

ภาพประกอบข่าว

จ.สุพรรณบุรี จัดกิจกรรม "สุขภาพดี วิถีชุมชน ยลอู่ทอง” ณ หมู่บ้านทวารวดีศรีอู่ทอง (เรือสำเภาเมืองโบราณอู่ทอง)

          วันนี้ (๑๔ ส.ค.๖๘) เวลา ๑๗.๓๐ น. ณ หมู่บ้านทวารวดีศรีอู่ทอง (เรือสำเภาเมืองโบราณอู่ทอง) ที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ สพ.๘๓๙ และ สพ.๘๔๐ ตำบลอู่ทอง อำเภออู่ทองจังหวัดสุพรรณบุรี นายพิริยะ  ฉันทดิลก  ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นประธานเปิดกิจกรรม"สุขภาพดี วิถีชุมชน ยลอู่ทอง” ภายใต้โครงการพัฒนาที่ราชพัสดุเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรม ครั้งที่ ๒ โดยสำนักงานธนารักษ์พื้นที่สุพรรณบุรีจัดขึ้น เพื่อพัฒนาที่ดินราชพัสดุให้เป็นพื้นที่สนับสนุนและรองรับกิจกรรมการท่องเที่ยวเมืองโบราณอู่ทอง ตลอดจนเพื่อดูแลรักษาที่ดินราชพัสดุและอาคารราชพัสดุให้อยู่ในสภาพดี สวยงาม อันเป็นการสร้างคุณค่าและเพิ่มมูลค่าให้แก่ที่ราชพัสดุ เพื่อไม่ให้เกิดความรกร้าง เสื่อมโทรม อีกทั้งยังเป็นการเปิดพื้นที่ให้เยาวชนหรือบุคคลทั่วไปและชุมชนท้องถิ่น ตลอดจนกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาและใช้พื้นที่ในการเผยแพร่วัฒนธรรมพื้นเมือง ผ่านการแสดงออกทางด้านศิลปวัฒนธรรม ดนตรี และเพื่อพัฒนาที่ราชพัสดุให้เป็นช่องทางในการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ โดยการเปิดพื้นที่ให้ชุมชนวิสาหกิจชุมชน ในการจำหน่ายสินค้าชุมชน ประเภทเครื่องแต่งกาย อาหาร เครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์สมุนไพรตลอดจนเป็นพื้นที่เชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอื่น ๆ ในพื้นที่อำเภออู่ทองที่อยู่ใกล้เคียงซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายประเด็นการพัฒนาจังหวัดสุพรรณบุรีในการพัฒนาการท่องเที่ยวและกีฬาเพื่อส่งเสริมอัตลักษณ์ของจังหวัดสุพรรณบุรี การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชากร ผสานกับการนำกลยุทธ์ "Value" ของกรมธนารักษ์มาใช้ในการขับเคลื่อนโครงการฯ เพื่อให้การใช้ประโยชน์จากพื้นที่และทรัพย์สินที่มีอยู่ในจังหวัดเกิดประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อชุมชนและเศรษฐกิจท้องถิ่น ซึ่งจะนำไปสู่การบริหารจัดการและการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป

          ด้านนางสาวณัฐชานันท์  อภิรักษ์ธนกุล  ธนารักษ์พื้นที่สุพรรณบุรี กล่าวว่า การดำเนินโครงการพัฒนาที่ราชพัสดุเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรม แบ่งการดำเนินงานออกเป็น ๒ เฟส ๓ เป้าประสงค์ คือ ปลุกพื้นที่ให้ตื่นจากการหลับใหล ใส่กิจกรรมให้มีชีวิตชีวา และเพิ่มมูลค่าให้ยั่งยืน นำพื้นที่ที่มีอยู่เดิมมาพัฒนาและใช้ประโยชน์ โดยกิจกรรมในครั้งนี้ประกอบด้วย กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพทุกช่วงวัยโดยออกกำลังกายประกอบดนตรีร่วมกัน กิจกรรมการแสดงทางด้านศิลปวัฒนธรรม และการออกร้านจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน ตลอดจนการสาธิตอาหารพื้นถิ่น และการสาธิตงานศิลปหัตถกรรม โดยมีหัวหน้าส่วนราชการตำรวจ นายอำเภอ ผู้อำนวยการสถาบันการศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาครัฐและภาคเอกชนผู้นำชุมชน ตลอดจนประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก