สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ
(องค์การมหาชน) หรือ NIA ร่วมกับศูนย์พัฒนาอุตสาหกรรมเกษตรเพื่อการส่งออก
คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
เดินหน้าผลักดันโครงการนวัตกรรมในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ชายแดน
ครอบคลุมจังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา และสตูล
เพื่อส่งเสริมและสร้างโอกาสการขยายผลเชิงพาณิชย์สำหรับธุรกิจนวัตกรรมในพื้นที่
ผ่านกิจกรรมการจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching) ภายใต้แนวคิด
“Future Forward : From Innovation to Global Business นวัตกรรมนำหน้า
ธุรกิจก้าวไกล”
การจัดกิจกรรมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อเชื่อมโยงผู้ประกอบการกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน
เสริมพลังการแข่งขัน และเปิดโอกาสสู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ
โดยจัดขึ้นภายใต้งานแสดงสินค้า Southex Expo ซึ่งรวมผู้ซื้อ
ผู้ขาย และเครือข่ายนวัตกรรมในภูมิภาค พร้อมกิจกรรมเสริมความรู้ด้านเทคโนโลยีอาหาร
บรรจุภัณฑ์ และการเข้าถึงทุนสนับสนุนจากภาครัฐ
เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถต่อยอดธุรกิจไปสู่ความยั่งยืน
ผู้ช่วยศาสตราจารย์
ดร.เสาวคนธ์ วัฒนจันทร์ คณบดีคณะอุตสาหกรรมเกษตร เปิดเผยว่า งาน South
Tech มีเป้าหมายหลักในการนำนวัตกรรม เครื่องมือ
และองค์ความรู้มาสู่พื้นที่ภาคใต้ เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการและ Startup
สามารถต่อยอดงานวิจัยไปสู่เชิงพาณิชย์ได้อย่างยั่งยืน
โดยได้รับการสนับสนุนจาก NIA ในการบ่มเพาะและเชื่อมโยงกับซัพพลายเออร์
เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่ซับซ้อนขึ้น
ทั้งนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เสาวคนธ์
เน้นย้ำว่า การวิจัยและพัฒนาในปัจจุบันควรเป็นแบบ Demand-driven ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดและธุรกิจโดยตรง
การนำผลงานวิจัยจากห้องปฏิบัติการไปสู่การผลิตเชิงพาณิชย์ในสเกลใหญ่
จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างนักวิจัยและผู้ประกอบการ
รวมถึงการสนับสนุนด้านเงินทุนจากภาครัฐ เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม
ความร่วมมือครั้งนี้คาดว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการขยายเครือข่ายทางการค้าและการยกระดับเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคใต้ชายแดน
ผู้ประกอบการจะได้รับประโยชน์จากการเข้าถึงองค์ความรู้ เทคโนโลยี และซัพพลายเออร์
ขณะเดียวกัน ซัพพลายเออร์ ภาครัฐ และมหาวิทยาลัยจะได้เห็นแนวโน้มความต้องการของตลาดและโจทย์วิจัยใหม่ๆ
เพื่อนำไปพัฒนานโยบายและโปรแกรมสนับสนุนที่ตอบสนองต่อสถานการณ์ได้ดียิ่งขึ้น
โครงการนี้ไม่เพียงช่วยขับเคลื่อนธุรกิจนวัตกรรมในพื้นที่
แต่ยังเป็นแรงผลักดันสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้
พร้อมปูทางให้ผู้ประกอบการสามารถแข่งขันได้อย่างมั่นคงบนเวทีเศรษฐกิจโลก
อันเป็นการวางรากฐานสู่ความเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนของภูมิภาคในอนาคต