นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า สทนช. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดและบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการรองรับปริมาณน้ำที่อาจเพิ่มขึ้น เนื่องจากในระยะนี้จนถึงวันที่ ๑๘ สิงหาคม ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก จากอิทธิพลร่องมรสุมพาดผ่านและมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางด้วย
ส่งผลให้หลายพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม และน้ำท่วมขัง
-ภาคเหนือ บริเวณ จ.เชียงราย จ.แม่ฮ่องสอน จ.เชียงใหม่ จ.ลำพูน จ.ลำปาง จ.พะเยา จ.น่าน จ.ตาก จ.พิษณุโลก จ.เพชรบูรณ์
-ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณ จ.เลย จ.หนองคาย จ.บึงกาฬ จ.อุดรธานี จ.สกลนคร จ.อุบลราชธานี
-ภาคตะวันออก บริเวณ จ.ชลบุรี จ.ระยอง จ.จันทบุรี จ.ตราด
-ภาคใต้ บริเวณ จ.ชุมพร จ.ระนอง จ.พังงา จ.ภูเก็ต
รวมทั้งต้องเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำขนาดกลางและเล็กที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ ๘๐ ของความจุเก็บกัก และขอให้พิจารณาบริหารจัดการน้ำเขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนผาจุก จ.อุตรดิตถ์ , เขื่อนนเรศวร จ.พิษณุโลก ให้สอดคล้องเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบหรือเกิดผลกระทบน้อยที่สุด ควบคู่กับระวังระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน ระดับน้ำล้นตลิ่ง และท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ บริเวณแม่น้ำสายหลักและลำน้ำสาขาของแม่น้ำอิง และแม่น้ำยม เช่นเดียวกับกิจกรรมการใช้น้ำและการสัญจรทางน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาด้านท้ายเขื่อน บริเวณ จ.อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา ต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากการปรับเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา
ข่าว ปิยาพรรณ ยังเทียน สวท.