นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) มอบหมายให้ ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานในการประชุมการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยมี นายพชรเสฏฐ์ บุญศิริสาริศา รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรมอุตุนิยมวิทยา กรมชลประทาน และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ(องค์การมหาชน) เขื่อนสิริกิติ์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และหน่วยงานที่เกี่ยงข้อง เข้าร่วมการประชุมฯ ณ ห้องประชุมมณีน่าน เขื่อนสิริกิติ์ อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์
.
ด้านเลขาธิการ สทนช. กล่าวว่า การลงพื้นที่เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ในครั้งนี้ สืบเนื่องจาก นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ได้มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ฝนตกหนักที่จะเกิดขึ้นอีกครั้งในช่วงกลางเดือนสิงหาคมเป็นต้นไปเนื่องจากเกิดร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้เกิดฝนฟ้าคะนองและเกิดฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคเหนือ โดยเลขาธิการ สทนช. ได้เน้นย้ำถึงการบริหารจัดการน้ำและผลกระทบของพื้นที่ท้ายเขื่อนที่รับน้ำจากการปล่อยน้ำของเขื่อนสิริกิติ์ในอัตรา ๕๕ ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เพื่อเป็นการเพิ่มพิ้นที่ในการรองรับมวลน้ำจากแม่น้ำน่านในกรณีที่จะมีฝนในช่วงถัดไป ซึ่งส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตรในเขตพื้นที่ลุ่มต่ำ โดยได้แนะนำให้มีการบริหารจัดการ โดยการปล่อยน้ำจากเขื่อนนเรศวร อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลกที่รับน้ำต่อจากเขื่อนทดน้ำผาจุก อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ให้เร่งระบายน้ำให้มากที่สุด โดยต้องไม่สร้างผลกระทบในพื้นที่ท้ายน้ำของเขื่อนนเรศวร ซึ่งปัจจุบันมีการระบายน้ำที่ ๖๐๒ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และมีแผนจะเพิ่มเป็น ๖๒๐ และ ๖๕๐ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ตามลำดับ เพื่อเร่งระบายน้ำท่วมขังในบางพื้นที่ของจังหวัดอุตรดิตถ์
.
จากการติดตามข้อสั่งการของรองนายกรัฐมนตรีในวันนี้ สทนช. ได้ร่วมกับกรมชลประทานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) พิจารณาปรับแผนการระบายน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน พร้อมเร่งระบายน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำยม-น่าน ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ปริมาณฝนในพื้นที่ลดลง เพื่อเพิ่มพื้นที่รองรับปริมาณฝนในช่วงถัดไป โดยขณะนี้ เขื่อนสิริกิติ์มีอัตราการระบายน้ำอยู่ที่ ๕๕ ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ซึ่งในเบื้องต้นพบว่าเป็นอัตราการระบายน้ำที่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตรบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำบางส่วนในจังหวัดอุตรดิตถ์ จึงได้สั่งให้ดำเนินการสำรวจความเสียหายอย่างละเอียด หากพบว่ามีผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชนหรือพื้นที่การเกษตรในวงกว้าง จะพิจารณาลดอัตราการระบายน้ำและวางแผนเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบต่อไป