เลขาธิการ สทนช. ลงพื้นที่เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ ติดตามการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำยม-น่าน

เผยแพร่เมื่อ ๑๑ ส.ค. ๒๕๖๘

ภาพประกอบข่าว

วันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๖๘ เวลา ๑๐.๓๐ น. ดร. สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมเรื่องการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมคณะ โดยมีนายพชรเสฏฐ์ บุญศิริสาริศา รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ นำส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชนเข้าร่วมประชุม และมีการเผยแพร่การประชุมผ่านระบบออนไลน์ไปยังกลุ่มจังหวัดลุ่มน้ำยม-น่าน ณ ห้องประชุมเขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์

.

เลขาธิการ สทนช. กล่าวว่าการลงพื้นที่เขื่อนสิริกิติ์ในวันนี้ สืบเนื่องจากนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) มีความห่วงใยสถานการณ์ฝนตกหนักที่คาดว่าจะเกิดขึ้นอีกครั้งในช่วงกลางเดือนสิงหาคมเป็นต้นไป เนื่องจากร่องมรสุมจะพาดผ่านภาคเหนือ และอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้เกิดฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนักในหลายพื้นที่

.

เลขาธิการ สทนช. ได้เน้นย้ำถึงการบริหารจัดการน้ำ และผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อนที่รับน้ำจากการระบายน้ำในอัตรา ๕๕ ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวัน ซึ่งมีผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ลุ่มต่ำบางส่วน โดยได้แนะนำให้บริหารจัดการการปล่อยน้ำเขื่อนนเรศวร ซึ่งรับน้ำจากเขื่อนทดน้ำผาจุก ให้เร่งระบายน้ำให้มากที่สุด แต่ต้องไม่สร้างผลกระทบในพื้นที่ท้ายน้ำของเขื่อนนเรศวร จังหวัดพิษณุโลก โดยปัจจุบันมีการระบายน้ำที่ ๖๐๒ ลบ.ม. ต่อวินาที และมีแผนจะเพิ่มเป็น ๖๒๐ และ ๖๕๐ ลบ.ม. ต่อวินาที ตามลำดับ เพื่อเร่งระบายน้ำท่วมขังในบางพื้นที่ของจังหวัดอุตรดิตถ์

จากการติดตามข้อสั่งการของรองนายกรัฐมนตรี พบว่า สทนช. ได้ร่วมกับกรมชลประทาน (ชป.) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) พิจารณาปรับแผนการระบายน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน พร้อมทั้งเร่งระบายน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำยม-น่าน ในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ปริมาณฝนลดลง เพื่อเพิ่มพื้นที่รองรับปริมาณฝนในช่วงถัดไป โดยขณะนี้เขื่อนสิริกิติ์มีอัตราการระบายน้ำอยู่ที่ ๕๕ ลบ.ม. ต่อวัน ซึ่งเบื้องต้นพบว่าส่งผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตรบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำบางส่วนในจังหวัดอุตรดิตถ์ จึงได้สั่งการให้ดำเนินการสำรวจความเสียหายอย่างละเอียด หากพบว่ามีผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชนหรือพื้นที่การเกษตรในวงกว้าง จะพิจารณาลดอัตราการระบายน้ำและวางแผนเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบต่อไป

.

ภาพข่าว: สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอุตรดิตถ์

วันที่: ๑๑ สิงหาคม ๒๕๖๘