เหล่ากาชาดจังหวัดสุโขทัยมอบถุงธารน้ำใจจากสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์สภากาชาดไทยและสถานีกาชาดเทพรัตน์ (สถานีกาชาดที่ ๑๓ จังหวัดตาก) โดยแอพพลิเคชั่นพ้นภัย ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอศรีนคร จังหวัดสุโขทัย

เผยแพร่เมื่อ ๐๘ ส.ค. ๒๕๖๘

ภาพประกอบข่าว

เหล่ากาชาดจังหวัดสุโขทัยมอบถุงธารน้ำใจจากสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์สภากาชาดไทยและสถานีกาชาดเทพรัตน์ (สถานีกาชาดที่ ๑๓ จังหวัดตาก) โดยแอพพลิเคชั่นพ้นภัย ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอศรีนคร จังหวัดสุโขทัย

    วันนี้ (๘ สิงหาคม ๒๕๖๘) เวลา ๑๔.๐๐ น. ณ หอประชุมอำเภอศรีนคร ตำบลศรีนคร อำเภอศรีนคร จังหวัดสุโขทัย นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย เป็นประธานมอบถุงธารน้ำใจจากสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์สภากาชาดไทยและสถานีกาชาดเทพรัตน์ (สถานีกาชาดที่ ๑๓ จังหวัดตาก) โดยแอพพลิเคชั่นพ้นภัย ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่อำเภอศรีนคร จังหวัดสุโขทัย เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการฟื้นฟูชีวิตความเป็นอยู่ให้ผู้ประสบภัย โดยมี นายสมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นางฐิติพร ศิริโกศล นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุโขทัย นายสมลักษ์ ยกน้อยวงษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย นายภูริวัจน์ โชตินพรัตน์ ปลัดจังหวัดสุโขทัย กรรมการและสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดสุโขทัย สถานีกาชาดเทพรัตน์ (สถานีกาชาดที่ ๑๓ จังหวัดตาก) ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชนผู้ประสบภัยและผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธี 

     ในการนี้ นายนิพัฒน์ เปรมพล นายอำเภอศรีนคร กล่าวต้อนรับและรายงานสถานการณ์อุทกภัย ซึ่งพื้นที่อำเภอศรีนครได้ประสบอุทกภัยเมื่อวันที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๘ เป็นต้นมา ได้เกิดฝนตกหนัก ประกอบกับได้รับอิทธิพลจาก "พายุวิภา" ทำให้เกิดน้ำกัดเซาะตลิ่งและน้ำล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมในพื้นที่อำเภอศรีนคร จังหวัดสุโขทัย ก่อให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเรือนราษฎร พืชผลการเกษตรและสิ่งสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ มีพื้นที่ประสบอุทกภัย ๒ ตำบล ๑๑ หมู่บ้าน ๓๗๕ หลังคาเรือน โดยในพื้นที่หมู่ที่ ๙ ตำบลคลองมะพลับ ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับคลองน้ำไหล ทำให้น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตรมากกว่าพื้นที่อื่น มีครัวเรือนประสบอุทกภัยทั้งสิ้น ๑๘๐ หลังคาเรือน

      สำหรับการให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้ มีตัวแทนผู้ประสบภัย หมู่ที่ ๙ ตำบลคลองมะพลับรับมอบ รวมทั้งสิ้นจำนวน ๑๘๐ ครัวเรือน