วันนี้ (๙ สิงหาคม ๒๕๖๘) ที่ห้องประชุมชั้น ๓ อาคารคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน อ.เมือง จ.นครราชสีมา โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง ได้จัดประชุมอาสาสมัครชลประทาน เพื่อวางแผนพัฒนาและบำรุงรักษาสายน้ำลำตะคองตลอดสาย เนื่องจากเหลือปริมาณน้ำกักเก็บอยู่เพียง ๒๐% ของความจุกักเก็บทั้งหมด ๓๑๔ ล้านลูกบาศก์เมตร และเหลือน้ำใช้การได้จริงอยู่เพียง ๑๕% ภายหลังจากที่สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ และเป็นหัวใจสำคัญในการหล่อเลี้ยงพื้นที่หลายอำเภอของ จ.นครราชสีมา เท่านั้น
.
โดยมีนายสุคนธ์ เต็มยศยิ่ง ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง เป็นประธานในการประชุม และมีนายมารุต ชุ่มขุนทด คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายศุทธสิทธิ์ พจน์ฐศักดิ์ ส.ส.นครราชสีมา เขต ๓, ผศ.ดร.นิคม บุญญานุสิทธิ์ คณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และศิลปกรรมสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน, ตัวแทนชมรมฮักเขาใหญ่, ผู้นำชุมชน และอาสาสมัครชลประทาน ในพื้นที่ลุ่มน้ำลำตะคอง ๕ อำเภอ ได้แก่ อ.สีคิ้ว อ.สูงเนิน อ.ขามทะเลสอ อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.เมืองนครราชสีมา ร่วมประชุมกว่า ๑๐๐ คน
.
นายสุคนธ์ เต็มยศยิ่ง ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง กล่าวว่า สาเหตุหลักน้ำแล้งเกิดจากปีนี้ไม่มีพายุพาดผ่านทางอีสานใต้ ทำให้ไม่มีร่องความกดอากาศต่ำแช่บริเวณเขาใหญ่เหมือนในปี ๒๕๖๓–๒๕๖๕ โดยสถานการณ์น้ำในปัจจุบันยังน่าเป็นห่วง คือปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนลำตะคองค่อนข้างน้อย และปริมาณน้ำต้นทุนตอนนี้ก็เลยครึ่งลึกครึ่งปีไปแล้ว แต่ยังมีน้ำเพียง ๒๐% ของความจุ ส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนน้อยมาก ทั้งนี้ตนได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการบูรณาการทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครชลประทานที่เป็นหูเป็นตาในพื้นที่ เพื่อรายงานปัญหาต่างๆ เช่น คลองชำรุด ประตูน้ำเสีย เพื่อให้สามารถบริหารจัดการและพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับการประชุมครั้งนี้ ได้เปิดเวทีให้ทุกภาคส่วนร่วมวางแผนบริหารจัดการน้ำอย่างจำกัดในสถานการณ์วิกฤต พร้อมทั้งคาดหวังว่าในเดือนกันยายนซึ่งเป็นช่วงฝนตกมากในเขื่อนลำตะคอง จะมีร่องความกดอากาศต่ำหรือพายุผ่านเขาใหญ่เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำ
ตนคาดการณ์ว่า หากปริมาณน้ำไหลเข้าเป็นไปตามแบบจำลองในปี ๒๕๖๐ ภายใน ๑ พฤศจิกายนนี้ อาจมีปริมาณน้ำในเขื่อนอยู่ที่ประมาณ ๔๕% หรือราว ๑๔๕ ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเพียงพอต่อการบริหารจัดการน้ำในฤดูแล้งหน้า
.
นายมารุต ชุ่มขุนทด คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่าตนให้ความสำคัญกับการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนอย่างแท้จริง โดยพรรคกล้าธรรมซึ่งตนเป็นหนึ่งในทีมยุทธศาสตร์ ได้ปรับแนวคิดจากเดิมที่พรรคหรือกระทรวงเป็นผู้กำหนดนโยบายเพียงฝ่ายเดียว มาเป็นการเปิดรับฟังเสียงของประชาชนก่อน เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาพัฒนาสู่นโยบายของพรรคและกระทรวงที่เกี่ยวข้อง
โดยยังเน้นถึงความสำคัญของการสื่อสารระหว่างภาครัฐกับประชาชน ต้องมีการรายงานความคืบหน้าและอัปเดตแผนงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันความเข้าใจคลาดเคลื่อน เช่น กรณีที่ประชาชนตั้งคำถามว่าทำไมน้ำยังท่วม แม้ระยะเวลาไม่นาน ทั้งที่มีแผนรับมือแล้ว
.
สำหรับปัญหาน้ำเสียจากภาคอุตสาหกรรม เทศบาล และครัวเรือนที่ถูกปล่อยลงลำตะคอง นายมารุตเห็นว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องแก้ไข พร้อมเสนอให้ทุกฝ่ายหยุดการปล่อยน้ำเสีย และยกตัวอย่างกรณีจังหวัดเชียงใหม่ที่สามารถปรับปรุงคลองน้ำเสียให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้สำเร็จ ในมุมมองภาพรวม เขามองว่าสายน้ำลำตะคองเป็นสินทรัพย์สำคัญของจังหวัดนครราชสีมา ที่มีศักยภาพพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวทั้งกลางวันและกลางคืน หากมีการออกแบบอย่างเป็นระบบและมองการพัฒนาเมืองแบบองค์รวม ไม่แยกเป็นโครงการย่อย พร้อมดึงความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ รวมถึงภาคการศึกษา เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์แนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน