กรมชลประทานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ปรับแผนการระบายน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำทางตอนบนจนถึงวันที่ ๗ กันยายนนี้ พร้อมเฝ้าระวังปริมาณน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำยม-น่านจากฝนตกหนักนายสมจิตฐิพงศ์ อำนาจศาล ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ ๓ กล่าวถึงมาตรการรองรับสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่มจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “คาจิกิ” และ “หนองฟ้า” ที่ส่งผลกระทบต่อหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือว่า ได้ติดตามปริมาณฝนและการไหลของน้ำในลุ่มน้ำยมและลุ่มน้ำน่านอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอิทธิพลของพายุ “หนองฟ้า” ทำให้เกิดฝนตกหนักหลายพื้นที่ ส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำสิริกิติ์เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งจากแม่น้ำสายหลัก ลำห้วยสาขา และการผันน้ำเข้าสู่เขื่อน อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อนได้ ดังนั้น เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น กรมชลประทานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมกันกำหนดแผนการระบายน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์จนถึงวันที่ ๗ กันยายน แบ่งเป็น ช่วงวันที่ ๑ – ๓ กันยายน ลดอัตราการระบายน้ำลงเหลือวันละ ๒๕ ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ ๒๙๐ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และช่วงวันที่ ๔ – ๗ กันยายน จะปรับเพิ่มเป็นวันละ ๕๐ ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ ๕๘๐ ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยจะติดตาม ประเมิน และปรับแผนการระบายน้ำต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณฝนและระดับน้ำท้ายเขื่อนในแต่ละช่วงเวลาทั้งนี้ สำนักงานชลประทานที่ ๓ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำตลอด ๒๔ ชั่วโมง พร้อมประสานการทำงานร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่อย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงให้เตรียมพร้อม หากมีการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำที่อาจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว