วันนี้(จันทร์ที่
๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๘)
นายสกุล ดำรงเกียรติกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานพิธี
“เปิดป้ายพื้นที่คุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งโดยชุมชน (เขตเล สิบบ้าน)
ปล่อยพันธุ์ปูม้า วางซั้งกอบ้านปลา เก็บขยะชายฝั่งหาดยาว บ้านเจ้าไหม” ณ หาดยาว
บ้านเจ้าไหม ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ทั้งนี้ จากแนวคิดริเริ่มของชุมชนประมง ๔
หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านน้ำราบ บ้านเกาะมุกด์ บ้านฉางหลาง
และบ้านควนตุ้งกู จนปัจจุบันเพิ่มเป็น ๑๐ บ้าน ๒ อำเภอ
เพื่อตกลงร่วมกันที่จะจัดทำพื้นที่คุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
เพื่อการอนุรักษ์พะยูน ความหลากหลายทางชีวภาพในการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน
กิจกรรมในวันนี้
เป็นกิจกรรมที่จะช่วยทำให้ภาคเอกชน ส่วนราชการและประชาชนในพื้นที่
ได้ร่วมวางแผนแก้ปัญหาความเสื่อมโทรมของระบบนิเวศชายฝั่งแบบบูรณาการ
เป็นการปลูกฝังจิตสำนึกในการเต็มความสำคัญของการอนุรักษ์ทรัพยากรทะเลและชายฝั่งแก่ประชาชนในพื้นที่และหมู่บ้านใกล้เคียง
รวมทั้งเป็นการเสริมสร้างภาคีเครือข่ายรักษาทะเลในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
ต้องขอชื่นชมเครือข่ายองค์กรชุมชนเขตเล-เสบ้าน(เขตทะเลสี่หมู่บ้าน)
ที่ร่วมกันดูแลรักษาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในรูปแบบต่างๆ
ด้วยความเข้มแข็งตลอดมา จนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์และเป็นที่ยอมรับแก่สาธารณะ
จนวันนี้ได้มีการขยายเครือข่าย เป็นเขตเล สิบบ้าน(เขตเล ๔ บ้าน + ๖ บ้าน)
ยกระดับเป็นพื้นที่คุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งโดยชุมชน
ภายใต้กติกาการทำประมงที่ไม่ทำลายพันธุ์สัตว์น้ำวัยอ่อนและเป็นอันตรายต่อพะยูน
ตลอดจนร่วมกันฟื้นฟูระบบนิเวศชายฝั่งอย่างเข้มแข็งเป็นต้นแบบในการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในจังหวัดตรัง
ทั้งนี้
การจัดทำพื้นที่คุ้มครองทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งโดยชุมชน เขตเล
สิบบ้าน
ดำเนินการตามกรอบความร่วมมืออนุสัญญาความหลากหลายทางชีวภาพ
และการส่งเสริมสนับสนุนชุมชนชายฝั่งในการอนุรักษ์ฟื้นฟูและใช้ประโยชน์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอย่างยั่งยืนร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช
การจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำอย่างยั่งยืนของกรมประมง
และองค์กรภาคีที่เกี่ยวข้อง
กิจกรรมในวันนี้จึงถือเป็นอีกตัวอย่างที่ดีที่ทุกฝ่ายจะได้แสดงให้เห็นถึงพลังความร่วมมือในการแก้ปัญหาความเสื่อมโทรมของระบบนิเวศหญ้าทะเลซึ่งเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อนที่เคยมีความอุดมสมบูรณ์
โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง
ได้ขอบคุณทุกคนทุกฝ่ายที่ได้ร่วมกันดูแลรักษาระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง
มั่นใจว่ากิจกรรมในวันนี้จะเป็นจุดเริ่มที่สำคัญที่ทุกฝ่ายจะได้ช่วยกันแก้ไขปัญหาความเสื่อมโทรมของทรัพยากรโดยคนในพื้นที่และสร้างจิตสำนึกแก่เยาวชนให้ตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในท้องถิ่น ก็ขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างจริงจัง
ทางจังหวัดตรังและหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องพร้อมช่วยเหลือ
สนับสนุนกระบวนการทำงานต่างๆ ให้บรรลุเป้าหมายร่วมกันต่อไป