“จตุพร” นำทีมลุยยะลา ช่วยชาวสวนเบตงเพิ่มราคารับซื้อทุเรียน พร้อมหนุนส่งออกทุเรียนสด-ทุเรียนแช่แข็ง ขยายตลาดใหม่ทั่วโลก

เผยแพร่เมื่อ ๑๗ ส.ค. ๒๕๖๘

ภาพประกอบข่าว

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ปฏิบัติราชการในจังหวัดยะลา เพื่อติดตามศักยภาพการผลิตและการส่งออกสินค้าสำคัญของภาคใต้ ทั้งการรับซื้อทุเรียนสดและการส่งออกทุเรียนแช่แข็ง ซึ่งเป็นสินค้าหลักในการสร้างรายได้และการส่งออกของประเทศ พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนนโยบาย “พาณิชย์พึ่งได้” และ “ไทยทำ ไทยใช้ ไทยช่วยไทย” สร้างความมั่นใจให้กับเกษตรกรและผู้ประกอบการไทย


สำหรับการลงพื้นที่ จ.ยะลา นายจตุพรและคณะ ได้เยี่ยมชม “ล้งโกชาน” ซึ่งถือเป็นจุดรับซื้อทุเรียนใหญ่ที่สุดของจังหวัด มีกำลังรับซื้อเฉลี่ยวันละ ๑๘๐ ตัน หรือประมาณ ๗,๐๐๐ ตันต่อปี โดยทุเรียนจากเบตงขึ้นชื่อเรื่อง “ทุเรียนสะเด็ดน้ำ” ที่มีรสชาติหอมเป็นเอกลักษณ์ และได้รับความนิยมสูงในตลาดต่างประเทศ


โกชาน หรือคุณประเสริฐ คณานุรักษ์ เจ้าของล้ง เปิดเผยว่า ช่วง ๒–๓ ปีที่ผ่านมา ล้งไม่ได้ทำหน้าที่เพียงผู้รับซื้อเท่านั้น แต่ยังเป็นที่ปรึกษาให้เกษตรกรเรื่องการตั้งราคาและช่วงเวลาการตัดผลผลิต เพื่อลดต้นทุนการขนส่งและสร้างความมั่นใจให้ชาวสวนว่ามีตลาดรองรับอย่างต่อเนื่อง โดยเครือข่ายการส่งออกครอบคลุมทั้งจีน ออสเตรเลีย และยุโรป ผ่านผู้ประกอบการรายใหญ่หลายราย


นายจตุพร ได้พบปะพูดคุยกับชาวสวนในพื้นที่ พร้อมรับฟังปัญหาเรื่องต้นทุนการผลิต ทั้งค่าปุ๋ยและค่ายาฆ่าแมลง และยืนยันว่าจะนำ “สินค้าธงเขียว” ราคาถูกเข้ามาช่วยลดภาระต้นทุนให้เกษตรกร นอกจากนี้ ยังได้ประสานผู้ประกอบการให้ปรับราคารับซื้อทุเรียนในพื้นที่เบตงจาก ๘๕ บาทเป็น ๙๐ บาทต่อกิโลกรัมทันที โดยผู้รับซื้อได้ประกาศเปลี่ยนป้ายราคา ณ จุดรับซื้อ ต่อหน้าชาวสวนที่มาส่งทุเรียนในวันเดียวกัน


“ผมชื่นชมล้งโกชานที่ไม่ใช่แค่ผู้รับซื้อ แต่เป็นที่ปรึกษาและคู่คิดให้เกษตรกร การที่ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายตกลงปรับราคาร่วมกันต่อหน้าชาวสวน เป็นภาพที่สะท้อนความจริงใจและการช่วยเหลือกันแบบไทย ๆ วันนี้ผมและพี่น้องชาวสวนแฮปปี้ไปด้วยกันครับ” นายจตุพร กล่าว


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ย้ำว่า กระทรวงพร้อมเดินหน้าขยายตลาดใหม่ทั้งในเอเชีย ตะวันออกกลาง ยุโรป และอเมริกา ผ่านกิจกรรมเจรจาการค้า งานแสดงสินค้านานาชาติ และการทำตลาดเชิงรุก เพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสการค้าให้ผู้ประกอบการไทย เป้าหมายคือทำให้เกษตรกรและผู้ประกอบการมั่นใจได้ว่า พาณิชย์พึ่งได้จริง


โดยข้อมูลการส่งออกทุเรียนของไทย (มกราคม – มิถุนายน ๒๕๖๘) ปริมาณการส่งออกทั้งหมด ๖๗๓,๖๖๘ ตัน มูลค่า ๒,๙๑๘.๖๒ ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ ๗๐,๘๐๒.๐๒ ล้านบาท) หดตัวร้อยละ ๒.๖๗ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี ๒๕๖๗ สำหรับสัดส่วนการส่งออกสินค้า แบ่งเป็น ทุเรียนสด: ๙๐.๖๗% ทุเรียนแช่เย็นจนแข็ง: ๙.๐๑% ทุเรียนกวนและอบแห้ง: ๐.๓๑% โดยตลาดหลัก ได้แก่ ๑.จีน (๙๖.๗๗%) ๒.ฮ่องกง (๐.๘๓%) และ ๓.มาเลเซีย (๐.๗๘%)  ตลาดที่มีอัตราการขยายตัวสูงได้แก่ มาเลเซีย (ทุเรียนสด +๑,๙๘๔%) สหรัฐอเมริกา (ทุเรียนแช่เย็น/แช่แข็ง +๑๕๐%) และไต้หวัน (ทุเรียนแช่เย็น/แช่แข็ง +๑๔๓%) เป็นต้น