วันนี้(อาทิตย์ที่
๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๘) ที่หอประชุมจังหวัดตรัง
พันจ่าโท อนันต์ บุญสำราญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานเปิดงานวันอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ
ประจำปี ๒๕๖๘ กิจกรรมภายในงานประกอบด้วย กิจกรรมต่าง ๆ
เกี่ยวกับการอนุรักษ์พะยูนและหญ้าทะเล เช่น การนำเสนอผลการดำเนินงานและเสวนาทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับพะยูน
และหญ้าทะเล ทั้งด้านการศึกษาวิจัยและการอนุรักษ์
การระดมความคิดเห็นเพื่อนำไปสู่การดำเนินงานตามแผนอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติระยะที่ ๒
การขยายผลสู่โรงเรียนในพื้นที่ชายฝั่งทะเลของประเทศ การออกร้านของชุมชนและภาคเอกชน
ทั้งนี้ วัตถุประสงค์สำคัญของการจัดงาน คือ
เพื่อเสริมสร้างเครือข่ายและเผยแพร่องค์ความรู้ทางวิชาการด้านพะยูน
และหญ้าทะเลในวงกว้างมากขึ้น
เพื่อเสริมสร้างจิตสำนึกและความเข้าใจการอนุรักษ์หญ้าทะเลและพะยูนแก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและบุคคลทั่วไป
เพื่อสานต่อการผลักดันด้านนโยบายพะยูนและหญ้าทะเลแห่งชาติ
และเพื่อผลักดันให้เกิดความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมและร่วมกันรับผิดชอบในการอนุรักษ์พะยูนและระบบนิเวศหญ้าทะเล
นอกจากนี้ การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ยังเป็นการสร้างโอกาสและกระจายรายได้ให้กับชุมชน
ช่วยส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวของจังหวัดตรัง
เนื่องจากมีการประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้เป็นงานที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้
ไม่ใช่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานอนุรักษ์เท่านั้น และการจัดงานยังเน้นรูปแบบ “Green
Event” ลดขยะ งดโฟม
และลดบรรจุภัณฑ์ใช้แล้วทิ้งจำพวกพลาสติกให้ได้มากที่สุด
สำหรับวันอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ
มีที่มาจาก “มาเรียม” ลูกพะยูนที่พลัดหลงกับแม่ แล้วเกยตื้นที่จังหวัดตรัง
เมื่อวันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๖๒
ตลอดระยะเวลา ๔ เดือน
จังหวัดตรังร่วมกับหน่วยงานภายในกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
ได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยเหลือลูกพะยูนตัวนี้
ท่ามกลางกำลังใจจากผู้คนในสังคม แม้ว่าสุดท้ายมาเรียมจะจากไปเมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๒ แต่เพื่อระลึกถึงและขับเคลื่อนการอนุรักษ์พะยูนและสัตว์ทะเลหายากอื่น
ๆ ต่อไป คณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ
จึงได้กำหนดวันที่ ๑๗ สิงหาคมของทุกปี
เป็นวันอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ
เป็นที่ทราบดีว่า
พะยูนเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเล
และเป็นสัตว์ป่าสงวนตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. ๒๕๖๒ ปัจจุบันประเทศไทยมีพะยูน ประมาณ ๒๑๒ ตัว
และมีแนวโน้มที่จะลดลงจากการประเมินของสหภาพสากลว่าด้วยการอนุรักษ์ (IUCN) พบว่า พะยูนถูกจัดให้อยู่ในสภาวะเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้กำหนดมาตรการในเชิงรุกอย่างเร่งด่วน
โดยเน้น ๔ ด้านหลัก ได้แก่ (๑) ฟื้นฟูและคุ้มครองแหล่งหญ้าทะเลอย่างเข้มข้นโดยเฉพาะในพื้นที่ที่พบพะยูนชุกชุมและมีปัญหาความเสื่อมโทรม
(๒) ควบคุมกิจกรรมของมนุษย์ เช่น
การกำหนดเขตจำกัดความเร็วเรือในแหล่งหญ้าทะเล และลดความเสี่ยงจากเครื่องมือประมง (๓)
ยกระดับระบบเฝ้าระวังและการช่วยเหลือพะยูนเกยตื้นให้ครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
และ(๔) เฝ้าระวังโรคและปัจจัยด้านสุขภาพของพะยูน
โดยสนับสนุนการตรวจวินิจฉัยโรค สารพิษ และมลภาวะในแหล่งอาศัย
รวมถึงพัฒนาอาหารทดแทนสำหรับพะยูนในภาวะขาดแคลนอาหาร
ซึ่งมาตรการเหล่านี้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ชุมชนท้องถิ่นและประชาชนทั่วไป
เพื่อให้การอนุรักษ์พะยูนไทยบรรลุผลอย่างยั่งยืน
มีแนวทางบริหารจัดการอนุรักษ์พะยูนและถิ่นอาศัยอย่างชัดเจน
และมีความก้าวหน้าเป็นรูปธรรมด้วยความตระหนัก
และความสนใจในการดำเนินงานเกี่ยวกับการอนุรักษ์พะยูนของทุกภาคส่วน
จึงเป็นที่มาของการร่วมกันจัดกิจกรรมงานวันอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติในวันนี้
การจัดงานวันอนุรักษ์พะยูนแห่งชาติ ประจำปี ๒๕๖๘
จัดขึ้นภายใต้แนวคิด รักษ์พะยูนคืนถิ่นเลตรัง อันหมายถึงการต้อนรับกลับบ้านอย่างอบอุ่นต่อพะยูนหลังจากที่พะยูนได้อพยพออกจากจังหวัดตรังอันเป็นบ้านเกิดและถิ่นที่อยู่อาศัยสำคัญ