กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ยืนยันโครงการติดตั้งหัวหาดเทียมผสมผสานแนวทางการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์บริเวณหาดปราณบุรี ใช้แนวทางธรรมชาติแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนให้ประชาชนและไม่มีการเลี่ยงทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA)
นายปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวถึงกรณี สส. พรรคประชาชน อภิปรายถึงโครงการติดตั้งหัวหาดเทียมผสมผสานแนวทางการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙ ที่ผ่านมา มีความซ้ำซ้อนกับโครงการแนวกันคลื่นที่มีอยู่แล้วในพื้นที่ และเลี่ยงการทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ว่า ในข้อเท็จจริงโครงการดังกล่าวเป็นไปตามหลักวิชาการที่ต้องการแก้ปัญหาให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน เนื่องจากเป็นพื้นที่บริเวณหาดปราณบุรีอยู่ในพื้นที่เทศบาลตำบลปากน้ำปราณ อำเภอปราณบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินการก่อสร้างกำแพงกันคลื่น ทำให้ชายหาดเสียหาย สูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ประชาชนในพื้นที่ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากชายหาดได้ จึงต้องฟื้นฟูชายหาดที่มีความเสียหาย เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีในพื้นที่ได้อีกครั้งอย่างยั่งยืน เมื่อพิจารณาจากผลกระทบที่เกิดขึ้น ประกอบกับ ลักษณะของพื้นที่แล้ว กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เห็นว่าการแก้ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งโดยการก่อสร้างแนวกันคลื่นด้วยการใช้โครงสร้างแข็งในรูปแบบต่างๆ มักก่อให้เกิดผลกระทบกับพื้นที่ข้างเคียงและมีความเสียหายที่ค่อนข้างรุนแรง ซึ่ง นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีนโยบายส่งเสริมให้พิจารณาใช้แนวทางการแก้ปัญหาด้วยโครงสร้างอ่อน หรือการใช้แนวคิดธรรมชาติเป็นฐาน (Nature-based solution) แม้จะใช้เวลาเห็นผลแต่ไม่นานมาก แล้วยังจะช่วยฟื้นฟูและรักษาความสมดุลของระบบนิเวศชายฝั่งทะเลได้เป็นอย่างดี สามารถสร้างความสมบูรณ์ของระบบนิเวศตามสภาพธรรมชาติให้กลับคืนมาได้ ที่สำคัญช่วยป้องกันและลดผลกระทบการกัดเซาะชายฝั่งในพื้นที่ได้ยั่งยืน ลดผลกระทบที่จะเกิดต่อพื้นที่ข้างเคียงที่จะทำให้เกิดการส่งต่อปัญหาไม่สิ้นสุด แต่เมื่อพิจารณาจากความลาดชัดของชายหาด ลักษณะคลื่น และความรุนแรงของคลื่นแล้ว พื้นที่หาดปราณบุรีมีลักษณะพื้นที่ที่เหมาะสมและมีศักยภาพที่จะสามารถฟื้นฟูชายหาด โดยใช้แนวทางการแก้ปัญหาด้วยแนวคิดธรรมชาตินี้ได้
ทั้งนี้ โครงการติดตั้งหัวหาดเทียมผสมผสานแนวทางการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จะเป็นโครงการต่อเนื่อง ๒ ปี คือ ปี ๒๕๖๙ - ๒๕๗๐ การฟื้นฟูจะประกอบด้วยหลายส่วนในพื้นที่ระยะทาง ๕๐๐ เมตร ตั้งแต่การฟื้นฟูระบบนิเวศหาดทราย ด้วยการเติมทรายและการสร้างเนินทรายชายฝั่ง การฟื้นฟูระบบนิเวศหาดหิน โดยใช้องค์ประกอบของโครงสร้างที่มีผลกระทบน้อย การฟื้นฟูระบบนิเวศชายฝั่งพื้นที่ใต้น้ำ ด้วยการทำการฟื้นฟูสันดอนทราย และการฟื้นฟูระบบนิเวศป่าชายหาด ด้วยการปลูกต้นไม้ป่าชายหาดและพืชคลุมดินเพื่อรักษาเสถียรภาพของชายฝั่ง ซึ่งตามแนวทางในการจัดทำ EIA โครงการในลักษณะดังกล่าวนี้ เป็นโครงการที่ไม่เข้าข่ายต้องจัดทำ EIA จึงไม่ใช่เป็นการเลี่ยงที่จะไม่ทำ EIA แต่ประการใด
สำหรับส่วนของพื้นที่ที่จะดำเนินโครงการฯ เป็นพื้นที่ของเทศบาลตำบลปากน้ำปราณ ซึ่งไม่ได้มีพื้นที่ติดต่อกันกับเทศบาลตำบลปราณบุรี และพื้นที่เทศบาลตำบลปราณบุรีไม่ได้ติดกับชายหาด โครงการนี้จึงไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ต่อเทศบาลตำบลปราณบุรี แต่เป็นการแก้ปัญหาอย่างจริงจังให้กับประชาชนในพื้นที่ชายหาดที่ได้รับผลกระทบจนไม่สามารถใช้ทรัพยากรที่มีในท้องถิ่นได้ให้สามารถกลับมามีทรัพยากรที่สมบูรณ์ให้ได้ใช้ประโยชน์ในการประกอบอาชีพและสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี
