ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ตอนบน ร่วมกับเกษตรและสหกรณ์จังหวัดเพชรบุรี ปฏิบัติการช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่ประสบภัยแล้ง เติมน้ำต้นทุนให้กับอ่างเก็บน้ำและเขื่อนต่าง ๆ ครอบคลุมพื้นที่ จังหวัดราชบุรี จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

เผยแพร่เมื่อ ๑๕ ส.ค. ๒๕๖๘

ภาพประกอบข่าว

ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ตอนบน ร่วมกับเกษตรและสหกรณ์จังหวัดเพชรบุรี ปฏิบัติการช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่ประสบภัยแล้ง เติมน้ำต้นทุนให้กับอ่างเก็บน้ำและเขื่อนต่าง ๆ ครอบคลุมพื้นที่ จังหวัดราชบุรี จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

วันนี้ (๑๕ ส.ค.๖๘) นางสาวศิริวรรณ เครือเล็ก เกษตรและสหกรณ์จังหวัดเพชรบุรี นำทีมบุคลากรในสังกัด ร่วมขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงกับศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ตอนบน จังหวัดเพชรบุรี ที่ได้จัดตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยได้เริ่มปฏิบัติการนับตั้งแต่วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๘ เป็นต้นมา โดยมีอากาศยานขนาดเล็กชนิด Cessna Caravan จำนวน ๔ ลำ เตรียมพร้อมปฏิบัติการช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่ประสบภัยแล้ง เติมน้ำต้นทุนให้กับอ่างเก็บน้ำและเขื่อนต่าง ๆ รวมทั้งสร้างความชุ่มชื้นให้กับป่าไม้ บริเวณภาคใต้ตอนบน ครอบคลุมพื้นที่ จังหวัดราชบุรี จังหวัดเพชรบุรี และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

สำหรับวันนี้เวลา ๑๐:๓๐ น. ได้ขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวง ในขั้นตอนที่ ๑ ก่อเมฆ ด้วยเครื่องบิน Cessna Caravanจำนวน ๑ ลำ รวม ๑ เที่ยวบิน ใช้สารฝนหลวงสูตร ๑(๔/๒) เกลือแป้ง จำนวน ๕๐๐ กิโลกรัม บินโปรยสารฝนหลวงเป็นแนวยาวในทิศทางเหนือ-ใต้ ระยะทางประมาณ ๒๕ ไมล์ทะเล (ประมาณ ๔๗ กิโลเมตร) ที่ระดับความสูง ๗,๐๐๐ ฟุต เหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง บริเวณ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ถึง อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี และในเวลา ๑๓:๐๐ น. เป็นต้นไป จะขึ้นบินปฏิบัติการในขั้นตอนที่ ๒ เลี้ยงให้อ้วน และขั้นตอนที่ ๓ โจมตี เพื่อให้เมฆพัฒนาตัวหนาแน่นขึ้น มีปริมาณมากขึ้น และพัฒนาตัวเป็นฝนตกในพื้นที่เป้าหมาย โดยพื้นที่เป้าหมายเป็นพื้นที่การเกษตรและพื้นที่ลุ่มรับน้ำอ่างเก็บน้ำทุกอำเภอของจังหวัดเพชรบุรี

ทั้งนี้ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จะยังคงวิเคราะห์และติดตามสภาพอากาศในทุก ๆ วัน ไม่มีวันหยุด หากสภาพอากาศเหมาะสมสามารถปฏิบัติการฝนหลวงได้ ทางหน่วยฯ จะวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่ยังคงมีความต้องการน้ำเพื่อการเพาะปลูก พื้นที่ที่ต้องการน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค รวมทั้งเติมน้ำต้นทุนให้กับเขื่อน/อ่างเก็บน้ำ ในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีต่อไปจนถึงเดือนตุลาคม ๒๕๖๘

-----------------------

สวท.เพชรบุรี/๑๕ ส.ค.๖๘