รองนายกรัฐมนตรี กำชับให้บริหารจัดการน้ำของเขื่อนนเรศวรและเขื่อนต่างๆในแนวแม่น้ำน่านให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยการปรับเพิ่มการระบายช่วยลดผลกระทบพื้นที่การเกษตร

เผยแพร่เมื่อ ๑๓ ส.ค. ๒๕๖๘

ภาพประกอบข่าว

รองนายกรัฐมนตรี กำชับให้บริหารจัดการน้ำของเขื่อนนเรศวรและเขื่อนต่างๆในแนวแม่น้ำน่านให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยการปรับเพิ่มการระบายช่วยลดผลกระทบพื้นที่การเกษตร
              นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะประธานกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์และการบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำน่านต่อเนื่อง พบเขื่อนนเรศวรได้ปรับเพิ่มอัตราการระบายน้ำมาอยู่ในอัตรา ๕๒ ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน เพื่อเร่งระบายน้ำจากพื้นที่ตอนบนให้สอดรับกับอัตราการระบายของเขื่อนสิริกิติ์และเขื่อนผาจุก ส่งผลให้ระดับน้ำที่ท่วมขังอยู่ในพื้นที่การเกษตรลุ่มต่ำบริเวณอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ อำเภอตรอน และอำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ ลดลงถึง ๒๐ เซนติเมตร สามารถช่วยคลี่คลายผลกระทบต่อประชาชนได้ในเบื้องต้น จึงได้สั่งการให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ประสานกรมชลประทานบริหารจัดการน้ำของเขื่อนนเรศวรและเขื่อนต่างๆในแนวแม่น้ำน่านให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อลดผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชนและพื้นที่การเกษตรในจังหวัดอุตรดิตถ์ให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว โดยต้องคำนึงถึงความสมดุลของปริมาณน้ำทั้งบริเวณเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อนด้วย
             ขณะที่สถานการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนของประเทศ คาดการณ์ช่วง ๒ - ๓ วันนี้ จะมีปริมาณฝนเพิ่มขึ้นบริเวณจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก จันทบุรี และตราด จึงสั่งการให้ สทนช. ใช้กลไกศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้า (ชั่วคราว) ในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัย ติดตามสถานการณ์ทุกพื้นที่อย่างใกล้ชิดและรายงานผลการดำเนินงานให้รัฐบาลทราบอย่างต่อเนื่องด้วย