"เฉลิมชัย" กำชับกรมอุทยานฯ เร่งแก้ปัญหาช้างป่าออกนอกพื้นที่ป่า ด้วยการพัฒนาระบบแจ้งเตือนประชาชนและแผนที่ช้างป่าป้องกันอันตรายจากช้างป่า

เผยแพร่เมื่อ ๑๒ ส.ค. ๒๕๖๘

ภาพประกอบข่าว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กำชับกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชเร่งแก้ปัญหาช้างป่าออกนอกพื้นที่ป่า ด้วยการพัฒนาระบบแจ้งเตือนประชาชนและแผนที่ช้างป่าป้องกันอันตรายจากช้างป่า
             นายเฉลิมชัย​ ศรีอ่อน​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงสถานการณ์ช้างป่าทางภาคตะวันออกที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชสำรวจมีอยู่ในพื้นที่เกือบ ๘๐๐ ตัว และพบช้างป่ากว่าร้อยละ ๗๐ - ๘๐ มีพฤติกรรมออกมาหากินนอกป่าที่อาศัยอยู่ โดยเดินออกมามากกว่า ๓๐ กิโลเมตรและไม่ยอมกลับเข้าป่า โดยช่วงกลางวันจะอาศัยหย่อมป่าขนาดเล็กเป็นที่นอนหลบแดด จากนั้นช่วงบ่ายจะออกมากินอาหาร ซึ่งเป็นพืชผลผลิตภัณฑ์ของชาวบ้าน จึงได้สั่งการให้กรมอุทยานฯแก้ปัญหาช้างป่าออกนอกพื้นที่ป่าอย่างต่อเนื่อง​ ทั้งการสร้างแหล่งน้ำแหล่งอาหารในป่า​การสร้างแนวป้องกัน​ การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการเฝ้าระวังและติดตามพฤติกรรมช้าง​ รวมถึง เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากช้างป่า​ และการแก้ปัญหาในระยะยาว​เพื่อให้คนและช้างป่าอยู่ได้อย่างปลอดภัย​และยั่งยืน ทั้งนี้ จากข้อมูลสำรวจเมื่อต้นปี ๒๕๖๘ จนถึงวันที่ ๑ สิงหาคม พบช้างป่าออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์สร้างความเสียหายในกลุ่มป่าตะวันออกรวม ๗ จังหวัด มีช้างป่าออกนอกพื้นที่อนุรักษ์ ๓,๓๗๕ ครั้ง สร้างความเสียหายรวม ๓๑๓ ครั้ง เป็นพืชผล ๒๖๙ ครั้ง ทรัพย์สิน ๒๓ ครั้ง คนเจ็บ ๙ ราย และคนเสียชีวิต ๑๒ ราย จึงให้กรมอุทยานฯ เร่งจัดทำแผนที่ประชากรช้าง เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลและอัพเดตประชากรช้างในแต่ละจุด และต่อยอดเป็นแอปพลิเคชัน เพื่อให้สามารถอัพเดตข้อมูลได้ทุกสัปดาห์ พร้อมกำชับให้มีหน่วยเคลื่อนที่เร็วดูแลเรื่องช้างป่าในแต่ละพื้นที่ เพื่อติดตามข้อมูลสถานการณ์ช้างป่าและเป็นผู้คอยผลักดันช้างป่าออกจากพื้นที่เพื่อดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชน
            รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยังกำชับให้กรมอุทยานฯพิจารณาแนวทางการคุมอัตราการเกิดของช้างป่าในช่วงระยะเวลาหนึ่งในกลุ่มเป้าหมายช้างป่าในพื้นที่ที่มีช้างป่าจำนวนมากและสร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนในพื้นที่​ เพื่อลดไม่ให้ประชากรช้างป่าเพิ่มขึ้นเร็วเกินไป เนื่องจากประชากรช้างในพื้นที่ป่ารอยต่อมีจำนวนมากและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และขอให้ประชาชนทุกคนเข้าใจถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่​ที่ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก ทั้งสูญเสียชีวิต ทรัพย์สิน พืชผลการเกษตร และต้องดำรงชีวิตอยู่อย่างหวาดระแวง​ รวมถึง เจ้าหน้าที่และจิตอาสาที่ปฏิบัติหน้าที่เฝ้าระวังช้างป่าต้องเสี่ยงอันตรายขึ้นมากเช่นกัน